สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนยังคงกระตุ้นเศรษฐกิจของเวียดนาม เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ พากันเลี่ยงผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้า ด้วยการย้ายฐานการผลิตจากจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งทำให้การ  ส่งออกไปสหรัฐของเวียดนามสูงขึ้นอย่างมาก

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนามเปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ทะยาน 6.79% ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ รองจากการเติบโต 7.45% ในไตรมาสแรกของปีที่แล้ว

การเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งปี 2561 อยู่ที่ 7.08% ถือเป็นการขยายตัวรายปีสูงที่สุดนับตั้งแต่      วิกฤติเศรษฐกิจโลกในปี 2551

บรรดาบริษัทเสื้อผ้าต่างย้ายฐานการผลิตจากจีนไปเวียดนาม เกิดแนวโน้มเดียวกันในอุตสาหกรรมอื่นๆ ขณะที่การส่งออกจากเวียดนามไปจีนลดลง 7% ท่ามกลางภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีน

การส่งออกรวมของเวียดนามเพิ่มขึ้นเพียง 4.7% ในช่วงไตรมาสแรกซึ่งแรงหนุนเกือบทั้งหมดมาจากสินค้าของ “ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์” ยักษ์ใหญ่เกาหลีใต้

ซัมซุงดำเนินการโรงงานสมาร์ทโฟน 2 แห่ง ในภาคเหนือของเวียดนาม แต่บริษัทรายงานว่ามีผล กำไรจากการดำเนินงานลดลง 30% สำหรับไตรมาสเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2561

“วินกรุ๊ป” กลุ่มบริษัทรายใหญ่ที่สุดของประเทศ เปิดร้านสะดวกซื้อในอัตรา 1,000 สาขาต่อปี     การเติบโตดังกล่าวซึ่งรวมถึงซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งใหม่ด้วย ช่วยกระตุ้นการบริโภคของเอกชน

ก่อนหน้านี้ วินกรุ๊ปเปิดตัวจักรยานยนต์ไฟฟ้าคันแรกของประเทศสู่ตลาดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 และ ประกาศจะเข้าสู่ธุรกิจยานยนต์ในเดือนมิถุนายนนี้ ขณะที่ “หงิ เซิน” โรงกลั่นน้ำมันแห่งที่ 2 ของเวียดนามเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ ลงวันที่ 2 เมษายน 2562