เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 ณ ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย ได้มีการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย และ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่ศูนย์กลางการลงทุนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) โดยมี นายราเกส ซิงห์ เลขาธิการสภาธุรกิจไทย-เวียดนาม เข้าร่วมเป็นเกียรติในงานนี้ด้วย

 

 

 

ภายในงาน นายจอร์โจ กัมบา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย และ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ โดยอาศัยความแข็งแกร่งของเครือข่ายธุรกิจของธนาคารเอชเอสบีซีใน 62 ประเทศ และเขตการปกครอง พร้อมทั้งความเชี่ยวชาญในการสนับสนุนองค์กรข้ามชาติในการขยายธุรกิจระหว่างประเทศ และแพลตฟอร์มด้านการเงินดิจิทัลของธนาคารเอชเอสบีซีที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนต่างชาติเข้าถึงโอกาสในการลงทุนและขยายธุรกิจในประเทศไทย

 

 

 

 

 

ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีความโดดเด่นในภูมิภาคอาเซียน ด้วยศักยภาพและความพร้อมหลายด้านที่เอื้อต่อการลงทุน ในปี 2566 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีตัวเลขการลงทุนทำสถิติสูงสุดในรอบ 9 ปี ด้วยมูลค่าการขอรับการส่งเสริมการลงทุนกว่า 8.48 แสนล้านบาท เติบโตถึงร้อยละ 43 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) กว่า 6.63 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 72

บีโอไอเชื่อมั่นว่ากระแสการลงทุนจากต่างประเทศจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในไตรมาสแรกของปี 2567 มียอดขอรับส่งเสริมการลงทุนจำนวน 724 โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 94 มูลค่าเงินลงทุนรวม 228,207 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 31 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อประเทศไทย

 

 

การลงนามเป็นพันธมิตรกับธนาคารเอชเอสบีซีในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเข้าถึง เข้าใจ และประสานงานกับนักลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อเร่งการดึงดูดการลงทุนเข้าสู่ประเทศไทยให้มากยิ่งขึ้นในอนาคต บีโอไอมั่นใจว่าเครือข่ายระดับโลกของธนาคารเอชเอสบีซีจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและเร่งการลงทุนใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมตามยุทธศาสตร์ของบีโอไอ ได้แก่ ยานยนต์ไฟฟ้า เซมิคอนดักเตอร์ ดิจิทัล อุตสาหกรรมชีวภาพ และพลังงานสะอาด