ไฟเขียวโควตา 8 หมื่นตัน ภาษี 0% ข้าวเวียดนามไปอียู
อียูไฟเขียวโควตา 8 หมื่นตันต่อปี ข้าวหอม 9 สายพันธุ์ของเวียดนาม และข้าวขาวทั่วไป ส่งเข้าอียูไม่ต้องเสียภาษี
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต./ทูตพาณิชย์) ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลสื่อของเวียดนามว่า ข้าวหอม 9 สายพันธุ์ของเวียดนามจะได้รับโควตาภาษีการส่งออกไปยังสหภาพยุโรป(อียู)ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรียุโรป - เวียดนาม (EVFTA) ซึ่งในส่วนหนึ่งของข้อตกลง สหภาพยุโรป(อียู)จะให้โควตาสำหรับข้าวเวียดนาม 80,000 ตันต่อปี โดยมีอัตราภาษีร้อยละ 0 ประกอบด้วย ข้าวที่ผ่านการขัดสี 30,000 ตัน ข้าวที่ยังไม่ผ่านการกลั่น 20,000 ตันและข้าวหอม 30,000 ตัน
สหภาพยุโรปจะเปิดเสรีสำหรับข้าวหักอย่างเต็มที่ โดยช่วยให้เวียดนามสามารถส่งออกประมาณ 100,000 ตันไปยังสหภาพยุโรปต่อปีสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าว สหภาพยุโรปจะลดอัตราภาษีลงเหลือร้อยละ 0 หลังจาก 3 ถึง 5 ปี
นาย Nguyen Nhu Cuong ผู้อำนวยการแผนกเพาะปลูกพืชได้ระบุว่า กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท (MARD) จะประสานงานกับท้องถิ่นและผู้ส่งออก เพื่อตรวจสอบรายชื่อพันธุ์ข้าวหอมและแก้ไขเพิ่มเติมตามความจำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดในการผลิต โดยพื้นที่เพาะปลูกข้าวในจังหวัดสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงคิดเป็นประมาณร้อยละ 25 ของพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด คิดเป็นประมาณ 1 ล้านเฮกตาร์ผลผลิตข้าวหอมประมาณ 5.5 ล้านตัน
นาย Le Quoc Doanh รัฐมนตรีช่วยว่าการการกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท กล่าวว่า ปริมาณข้าวหอมที่ส่งออกไปยังสหภาพยุโรปที่ได้รับโควตาภาษีพิเศษ 30,000 ตันหรือเท่ากับร้อยละ 1.2 ของข้าวที่ผลิตได้ในภูมิภาค ดังนั้นศักยภาพในการส่งออกข้าวหอมจึงยังคงสูงมาก
หากปฏิบัติตามกฎระเบียบของสหภาพยุโรปและส่งออกข้าวหอม 30,000 ตันและข้าวทั่วไป 80,000 ตันด้วยราคาที่สูงก็จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตข้าวในเวียดนาม หลังจากที่รัฐบาลออกกฤษฎีกา 103/2020/ NĐ-CP เกี่ยวกับการรับรองพันธุ์ข้าวหอมที่ส่งออกไปยังสหภาพยุโรป กระทรวงได้ออกคำสั่งเกี่ยวกับการรับรองสำหรับผู้ส่งออกข้าวไปยังตลาดสหภาพยุโรป
ผู้ส่งออก 3 รายได้ส่งเอกสารไปยังกระทรวงแล้วและได้การรับรองภายใน 5 วัน ผู้ประกอบการสามารถยื่นเอกสารการลงทะเบียนผ่านทางระบบบริการสาธารณะออนไลน์ของกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทหรือทางไปรษณีย์ ผู้ส่งออกที่มีคำสั่งซื้อข้าวหอมสายพันธุ์ที่อยู่ในข้อตกลง EVFTA ต้องส่งเอกสารของตนไปยังกรมเพาะปลูกพืช เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนสำหรับการส่งออกไปยังสหภาพยุโรป
สคต. ณ กรุงฮานอย ให้ความเห็นว่า ในปี 2563 เวียดนามมีเป้าหมายส่งออกข้าว 6.7 ล้านตัน ในช่วงเดือนมกราคมถึงกรกฎาคม 2563 ส่งออกแล้วรวม 4 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็นร้อยละ 59.7 ของเป้าหมายรวมทั้งปี โดยมีมูลค่าส่งออก 1,950 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.1 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ประเทศสำคัญในการส่งออกข้าวของเวียดนามได้แก่ ฟิลิปปินส์ 688.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.3, จีน 293.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 84.0, มาเลเซีย 176.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.2 กานา 150.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 52.9 และโกตดิวัวร์ 117.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 20.0
จากข้อตกลง EVFTA จะส่งผลให้การส่งออกข้าวของเวียดนามไปยังสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น โดยในเดือนสิงหาคม 2563 การส่งออกข้าวของเวียดนามไปยังตลาดสหภาพยุโรปมีมูลค่ามากกว่า 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 93.5 เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2563 และร้อยละ 35.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 จะเห็นได้ว่า EVFTA ช่วยให้เวียดนามมีข้อได้เปรียบในการแข่งขันเพิ่มขึ้น โดยสามารถดึงส่วนแบ่งตลาดในสหภาพยุโรปมากขึ้น
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 19 กันยายน 2563