วันนี้ทุกคนจึงเห็นไปในทางเดียวกันว่า ไทยต้องเปิดประเทศ ไม่เพียงแต่รับนักท่องเที่ยว แต่ภาครัฐควรให้ความสำคัญมากขึ้นกับการเปิดรับนักลงทุนด้วย เพื่อหนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ในระยะยาว เพราะหากยังปิดประเทศต่อคนไทยอาจตายเพราะพิษเศรษฐกิจจากโรคโควิดเช่นกัน

 

เศรษฐกิจไทยหลัง “คลาย” ล็อกดาวน์ เริ่มทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง ทำให้ทุกคนเชื่อกันว่า เศรษฐกิจน่าจะพ้น “จุดต่ำสุด” ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าตามดูตัวเลขรายเดือนที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดแถลงข่าวอยู่เป็นประจำ จะเห็นชัดเจนว่า “การฟื้นตัว" ของเศรษฐกิจเริ่ม “แผ่วลง” เรื่อยๆ สาเหตุอาจเป็นเพราะช่วงหลังคลายล็อกดาวน์ในระยะแรกๆ "ดีมานด์" ที่อัดอั้นในระหว่างล็อกดาวน์กระฉูดออกมา จึงดูเหมือนเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ไว แต่เมื่อผ่านไประยะหนึ่งเศรษฐกิจก็เริ่มปรับตัวเข้าหาพื้นฐานของตัวเอง

 

ประเด็นนี้คือ สิ่งที่ “นักเศรษฐศาสตร์” ทุกคนเป็นห่วง สะท้อนผ่านตัวเลขประมาณการทางเศรษฐกิจของแต่ละสำนักวิจัย ซึ่งยังไม่เห็นว่ามีค่ายใดปรับตัวเลขประมาณการดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจในปี 2564 ...ตรงกันข้ามเรายังเห็นหลายๆ สำนักวิจัย ปรับลดประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีหน้าลงด้วยซ้ำ สาเหตุเพราะการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังหนักในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ทำให้ประเทศไทย “ไม่กล้า” เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศ

 

วันนี้ทุกคนเห็นตรงกันว่า “ไทย” จำเป็นต้อง “เปิดประเทศ” เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการเข้ามาเที่ยวในประเทศ เพราะหากยังปิดประเทศต่อเนื่อง แม้จะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศได้ดี ทำให้คนในประเทศไม่ติดเชื้อ ไม่ล้มป่วย หรือไม่ตายจากไปเพราะโรคนี้ แต่ในเวลาเดียวกันเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า หากเรายังปิดประเทศแบบนี้ไปเรื่อยๆ “คนไทย” จำนวนไม่น้อยก็คงจะตายลงเพราะ “พิษเศรษฐกิจ" จากโรคโควิดเช่นกัน

 

มาวันนี้ทุกคนจึงเห็นไปในทางเดียวกันว่า เราจำเป็นต้อง “เปิดประเทศ” แต่ต้องเป็นการเปิดแบบ “ระมัดระวัง” ไม่ปล่อยให้เชื้อไวรัสจากต่างประเทศเข้ามาระบาดจนมีเคส “ซูเปอร์สเปรดเดอร์” เพราะหากปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น เศรษฐกิจไทยนอกจากไม่ดีขึ้นแล้ว ยังเผชิญความยากลำบากที่มากขึ้นด้วยซ้ำ ...นอกจากการเปิดประเทศรับ “นักท่องเที่ยว” แล้ว เราเห็นว่าภาครัฐควรให้ความสำคัญมากขึ้นกับการเปิดประเทศรับ “นักลงทุน” หรือ “นักธุรกิจ” ด้วย เพราะถ้าเหลียวดูตัวเลข “การลงทุนเอกชน” ของไทยแล้ว “น่าห่วง” ไม่แพ้ภาคการท่องเที่ยวเลย

 

การลงทุนภาคเอกชนไทย ก่อนโควิดนับว่า “ย่ำแย่” แล้ว ช่วงโควิดยิ่ง “หนักขึ้น” ไปอีก เวลานี้การลงทุนภาคเอกชนไทยรูดต่ำลงกว่าระดับ 20% ต่อจีดีพี หากปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ไทยคงหนีไม่พ้น “กับดัก” ประเทศรายได้ปานกลาง เดิมเราเคยหวังว่า “อีอีซี” จะเป็นบันไดก้าวสำคัญ ช่วยให้เราพ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลาง แต่ด้วยสถานการณ์โควิดทำให้ “นักธุรกิจ” เดินทางเข้ามาดูทำเลที่ตั้งลงทุนได้ยากลำบากขึ้น เราเห็นว่าไหนๆ ก็พร้อมจะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยต่างชาติแล้ว เราควรให้ความสำคัญกับ “นักธุรกิจต่างชาติ” ด้วย เพราะการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ในระยะยาว

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 5 ตุลาคม 2563