โควิด-19 กลายพันธุ์กับประเทศที่ตรวจพบ
หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของโควิด-19 กลายพันธ์ุ ที่อาจส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลานี้ นี่คือภาพรวมโควิด-19 กลายพันธ์ุ กับประเทศที่ตรวจพบล่าสุด โดย B.1.1.7 เป็นการกลายพันธ์ุที่ตรวจพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร ก่อนที่จะกระจายไปยังประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในยุโรปและเอเชีย เป็นสาเหตุให้ประเทศจำนวนไม่น้อยตัดสินใจระงับการเดินทางเข้าประเทศหรือยกระดับมาตรการคุมเข้ม สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร ซึ่งทางการไทยยืนยันพบโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษกลายพันธุ์ในประเทศไทยแล้ว เมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา
ขณะที่แอฟริกาใต้ก็ตรวจพบ B.1.351 ที่มีการกลายพันธุ์ที่ตำแหน่งเกาะจับตัวรับของเซลล์มนุษย์ (N501Y) เหมือนกับที่ตรวจพบในสหราชอาณาจักร และเริ่มพบการติดเชื้อนอกประเทศแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ แซมเบีย และญี่ปุ่น โดยมีแนวโน้มที่จะแพร่กระจายเชื้อได้เร็วกว่าสายพันธ์ุดั้งเดิม
ทางด้าน John Nkengasong ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคประจำภูมิภาคแอฟริกา (Africa CDC) เผยว่า พบโควิด-19 กลายพันธ์ุในไนจีเรีย P681H จากการตรวจหาการติดเชื้อของประชาชนที่อาศัยอยู่ในรัฐโอซุน เมื่อช่วงปลายปี 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าเป็นการกลายพันธุ์ที่จุดตัดของสไปค์โปรตีน หลังทำการถอดรหัสพันธุกรรมแล้ว
ด้านมาเลเซียเองก็เผชิญหน้ากับเชื้อกลายพันธุ์อย่าง A701B หลังจากพบตัวอย่างในรัฐซาบะฮ์ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับเชื้อที่ตรวจพบในแอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย และเนเธอร์แลนด์ เบื้องต้นกำลังอยู่ในระหว่างตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลจึงยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัด ซึ่งก่อนหน้านี้มาเลเซียเองก็เคยตรวจพบโควิด-19 กลายพันธุ์ D614G ในรัฐเกอดะฮ์ ที่เพิ่มโอกาสติดเชื้อขึ้นถึง 10 เท่า จึงทำให้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา
แต่อย่างไรก็ตามศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ระบุ ไวรัสกลายพันธ์ุดังกล่าว อาจทำให้โอกาสติดและแพร่กระจายเชื้อเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดยืนยันว่าโควิด-19 กลายพันธ์ุเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยติดเชื้อมีอาการรุนแรงขึ้นหรือมีอัตราการเสียชีวิตสูงขึ้นแต่อย่างใด แม้ว่าจะเริ่มมีกระแสข่าวถึงความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนในการต้านโควิด-19 กลายพันธ์ุแล้วในช่วงเวลานี้
ที่มา the standard
วันที่ 6 มกราคม 2564