กรอ.พาณิชย์ ถกรับมือ "เมียนมา" เอกชนหวั่นกระทบอาเซียน เปิดเสรี และโลกคว่ำบาตรลงทุน
นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานคณะกรรมการหอการค้าไทย และประธาน กรรมการบริหาร บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จํากัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หอการค้าไทย กําลังติดตามสถานการณ์ภายในของสาธารณรัฐแห่งสหภาพ เมียนมา ว่าจะมีผลกระทบต่อการค้า 2 ฝ่ายและการทําธุรกิจในเมียนมา อย่างไร ทั้งนี้ 4 ประเด็นที่ต้องติดตามจากเหตุการณ์ในเมียนมา คือ
1). การเคลื่อนไหวตามด่านชายแดน และการเวลาการปิดเปิดด่าน ซึ่งเชื่อว่า ทางการ 2 ฝ่ายจะควบคุมดูแลได้อยู่แล้ว
2). ห่วงในเรื่องความตกลงร่วมระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่ค้าต่างๆ ซึ่งมี หลายประเด็นที่ต้องเร่งดําเนินการและกําลังเจรจาหารือ ซึ่งเมียนมาเป็นหนึ่ง
1 of 2
ในอาเซียน เมื่อเกิดเหตุการณ์ประกาศภาวะฉุกเฉิน อาจมีผลต่อเรื่องเจรจา การค้าระหว่างประเทศ เช่น อาร์เซ็ป ที่อยู่ในขั้นตอนทุกประเทศเตรียมพร้อม เปิดเสรีการค้าอาเซียนกับ 6 ประเทศคู่ค้า หรือ การเจรจาเอฟทีเออาเซียน- อียู
3). การสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังเป็นประเด็นสําคัญที่ทุกประเทศ ต้องร่วมมือกัน และ4. การประกาศภาวะฉุกเฉินจะทําให้การลงทุนในเมียนมา ชะลอตัวและกระทบต่อแผนลงทุนในเมียนมาระยะกลางและยาว
”ระยะสั้นแม้ไม่เกิดความเสียหาย แต่ในระยะยาวก็ห่วงเรื่องกําลังซื้อ และ เศรษฐกิจภายใน รวมถึงมุมมองต่อชาวโลก ที่จะลดความโดดเด่นในเมียนมา ในระยะยาวอีกครั้ง สําหรับไทยน่าจะได้รับผลกระทบไม่มากนัก เพราะเมีย นมายังนิยมสินค้าไทย ซึ่งอย่างบริษัทก็มีรายได้ในเมียนมาปีละ 100 ล้าน บาท โดยวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ คณะกรรมการร่วมภาครัฐและะเอกชนด้านการ พาณิชย์(กรอ.พาณิชย์) จะประชุม ซึ่งเดิมจะหารือแนวทางผลักดันการส่ง ออกของไทยในปี 2564 ที่มีหลายประเด็นที่ยังกังวล ก็จะหารือผลกระทบ จากเหตุการณ์ในเมียนมาด้วย โดยเฉพาะเรื่องการค้าชายแดนว่าจะทํา อย่างไรไม่เกิดสะดุด” นายสนั่น กล่าว
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์ กล่าวว่า สั่งการให้สํานักงานพาณิชย์ในเมียนมาได้รายงาน สถานการณ์ให้ทราบโดยตลอด ล่าสุดวันที่ 2 กุมภาพันธ์ สถานการณ์ทางการ ค้า 2 ฝ่าย ยังไม่ได้รับผลกระทบในภาพรวม การค้าชายแดนทั้งด่านแม่สาย เชียงราย แม่สอด ตาก ระนอง ยังสามารถค้าขายได้ปกติ แต่ก็จะหารือใน กรอ.พาณิชย์ ด้วย
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564