เวียดนามเลือกผู้นำชุดใหม่ "เหงียนฟู้จ่อง" ยึดเก้าอี้เลขาธิการพรรคสมัย 3
ที่ประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามลงมติเมื่อวันอาทิตย์ เลือก "เหงียน ฟู้ จ่อง" กลับมาเป็นเลขาธิการใหญ่ของพรรคเป็นสมัยที่ 3 ทำให้เป็นผู้นำที่ทรงอิทธิพลที่สุดของเวียดนามในรอบหลายทศวรรษด้วยวัยถึง 76 ปี
สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์อ้างสื่อของทางการเวียดนามเมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 มกราคมว่า เหงียน ฟู้ จ่อง ผู้นำหัวอนุรักษ์นิยมจีนวัย 76 ปี ซึ่งมีข่าวลือว่าสุขภาพอ่อนแอ ได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในวันเดียวกันนี้ให้เป็นเลขาธิการพรรคอีกสมัยในวาระ 5 ปี ซึ่งเป็นการดำรงตำแหน่งสมัยที่ 3 ครั้งแรกของเวียดนามสมัยใหม่ ทั้งยังได้รับการยกเว้นจากกฎของพรรคที่ระบุว่าผู้ที่อายุเกิน 65 ปีควรเกษียณ
"เช้าวันอาทิตย์ สหายเหงียน ฟู้ จ่อง ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่ของคณะกรรมการกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามครั้งที่ 13" สำนักข่าวเวียดนาม (วีเอ็นเอ) ของทางการเวียดนามรายงาน
จ่องก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำพรรคภายหลังการแย่งชิงอำนาจกับอดีตนายกฯ เหงียน เติ๋น สุง ในการประชุมใหญ่พรรคเมื่อปี 2559 และเป็นหัวขบวนการปราบปรามการคอร์รัปชันในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ที่พุ่งเป้าปราบปรามทั้งภายในพรรค, ตำรวจ และกองทัพ
การเลือกจ่องกลับมารับตำแหน่งผู้นำพรรคเป็นสมัยที่ 3 เกิดขึ้นระหว่างการประชุมใหญ่พรรคที่จัดขึ้นทุก 5 ปี ในกรุงฮานอย ซึ่งผู้แทนของพรรค 1,600 คนจากทั่วประเทศมาประชุมร่วมกันนาน 8 วัน ส่วนใหญ่เป็นการประชุมลับ เพื่อเลือกคณะผู้นำชุดใหม่ ด้วยเป้าหมายเพื่อค้ำจุนความสำเร็จทางเศรษฐกิจของเวียดนามและความชอบธรรมของการปกครองโดยพรรค
เวียดนามไม่ได้มีผู้นำที่ครองอำนาจสูงสุดเพียงผู้เดียว แต่ประกอบด้วยเสาหลัก 4 เสา ได้แก่ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทรงอิทธิพลสูงสุด, ประธานาธิบดี, นายกรัฐมนตรี และประธานสมัชชาแห่งชาติ
คาร์ล เธเยอร์ ศาสตราจารย์กิตติคุณผู้มีความเชี่ยวชาญด้านเวียดนามจากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ ให้ทัศนะว่า เราสามารถคาดหวังว่าจ่องจะยังคงเดินหน้าผลักดันการรณรงค์ของเขาต่อไป ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคโดนจัดการไปแล้วหลายราย รวมถึงสมาชิกโปลิตบูโร 3 คน
การปราบปรามการทุจริตของจ่อง ซึ่งมีเป้าหมายที่พันธมิตรหลายคนของอดีตนายกฯ สุง แม้จะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนและสมาชิกจำนวนมากในพรรค แต่ก็ถูกกลุ่มสิทธิและนักวิเคราะห์วิจารณ์ว่ามีแรงจูงใจจากการเมืองและเป็นการปราบปรามผู้ที่ไม่เห็นด้วย
"เราสามารถคาดคะเนว่าการปราบปรามผู้ที่ไม่เห็นด้วยในสื่อสังคมออนไลน์จะยังดำเนินต่อไป" เธเยอร์กล่าวกับเอเอฟพี
แอมเนสตีอินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า จำนวนนักโทษการเมืองของเวียดนามเพิ่มขึ้นเท่าตัวจาก 84 คน เป็น 170 คน นับแต่การประชุมพรรคครั้งที่แล้วเมื่อปี 2559 ส่วนใหญ่และเป็นสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้นนั้นโดนจำคุกเพราะการแสดงออกทางออนไลน์
จ่องเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามคนแรกที่ดำรงตำแหน่ง 3 สมัย นับแต่ยุคปฏิรูปเศรษฐกิจ "โด่ยเหมย" เมื่อปี 2529 โดยเขายังควบตำแหน่งประธานาธิบดีมานับแต่ปี 2561
การประชุมพรรคครั้งนี้เกิดในช่วงโรคระบาด โดยในช่วง 4 วันที่ผ่านมาเวียดนามมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เกือบ 200 คน ทำให้ยอดติดเชื้อรวมเป็นเกือบ 1,800 คน เสียชีวิต 35 คน เวียดนามยังยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้รายแรกด้วย เป็นผู้เชี่ยวชาญที่เดินทางเข้าประเทศเมื่อปลายเดือนธันวาคม
วันเสาร์ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขอนุมัติวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า และยังคงตรวจเชื้อประชาชนหลายพันคนและล็อกดาวน์ชุมชนที่มีความเสี่ยงสูง
ที่มา ไทยโพสต์
วันที่ 31 มกราคม 2564