สถานการณ์โควิด-19 เริ่มกลับมาระบาดระรอกใหม่ หน่วยงานรัฐ องค์กรเอกชนหรือแม้แต่ภาคประชาชนต่างต้องร่วมใจฝ่าฟันวิกฤตอีกครั้ง เอสซีจีในฐานะองค์กรชั้นนำระดับประเทศที่มีความเชี่ยวชาญด้านฝ้า ผนัง ไฟเบอร์ซีเมนต์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขวิกฤต โดยทางกลุ่ม Ceiling & Wall Business ได้พัฒนาห้องปลอดเชื้อต้นแบบและต่อยอดเป็นโปรเจกต์ ARI Clinic (Acute Respiration Infection Clinic) ซึ่งผสานนวัตกรรมวัสดุตกแต่งที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงการติดเชื้อของบุคลากรแพทย์และผู้ใช้บริการในโรงพยาบาล ถือเป็นการนำสิ่งที่เอสซีจีเชี่ยวชาญมาช่วยเหลือสังคมให้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19

 

 

อัญชลี ชวนะลิขิกร Managing Director Ceiling and Wall Business บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์ ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่ม Ceiling and Wall Business ในฐานะผู้ผลิตฝ้า ผนัง ไฟเบอร์ซีเมนต์ ได้ร่วมพัฒนาห้องปลอดเชื้อต้นแบบกับสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) และสถาบันบำราศนราดูรมาตั้งแต่ช่วงแรกของการระบาดโควิด-19 จนสำเร็จเป็น ‘ตู้ปลอดเชื้อความดันบวก’ ในปัจจุบัน แม้ส่งมอบให้กับโรงพยาบาล 156 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ แต่จากการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับโรงพยาบาลพบว่า พื้นที่ตรวจรักษาโรคติดต่อจากระบบทางเดินหายใจถูกให้ความสำคัญมากขึ้นและยังไม่เพียงพอ กลุ่ม Ceiling and Wall Business จึงใช้ประสบการณ์จากโครงการตู้ปลอดเชื้อสานต่อเป็น ‘ARI Clinic Project’ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของโรงพยาบาลในการปรับปรุงพื้นที่เดิมในการตรวจรักษาโรคที่ติดต่อจากระบบทางเดินหายใจ เป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และผู้มาใช้บริการ

 

 

‘ARI Clinic Project’ เลือกใช้ระบบผนัง ULTRA CLEAN WALL Solution นวัตกรรมผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี ที่ใช้เทคโนโลยี ULTRA CLEAN COATING ตรงตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขและกรมการแพทย์ ทำให้พื้นที่ตรวจรักษามีความปลอดภัย ทำความสะอาดง่าย สามารถเช็ดฆ่าเชื้อโรคได้ด้วยแอลกอฮอล์ ทนต่อเชื้อรา ตะไคร่ และรังสียูวี อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานเนื่องจากเป็นระบบผนังที่ช่วยลดความร้อนที่จะเข้ามาภายในห้องได้ นอกจากจุดเด่นเรื่องระบบผนังยังมาพร้อมระบบ Air Quality Control ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และออกแบบทิศทางการไหลของอากาศภายในห้องได้ ที่สำคัญสามารถติดตั้งได้อย่างรวดเร็วด้วย Speed Panel ระบบผนังประกอบเร็ว สามารถยกเข้าได้ทุกพื้นที่ทั้งภายนอกและภายใน

 

ในฐานะที่เอสซีจีเป็นผู้นำตลาดด้าน Ceiling and Wall Business ปณิธานหลักนอกจากการทำธุรกิจคือการช่วยเหลือสังคมเพื่อสร้างความยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เราไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาวัสดุตกแต่งให้มีมาตราฐานในระดับ Medical Grade เพื่อนำไปใช้ทางการแพทย์ จึงเกิดการต่อยอดโปรเจกต์ ARI Clinic ในการช่วยเหลือบุคคากรทางการแพทย์และผู้ป่วย โดยได้ฐานองค์ความรู้เดิมจากการเป็นผู้ผลิตตู้ปลอดเชื้อที่สามารถใช้งานได้จริง ซึ่งเราส่งมอบแล้วกว่า 163 ตู้ ครอบคลุม 156 โรงพยาบาลทั่วประเทศ และยังมีแผนส่งมอบกว่าอีก 200 ตู้ ในปี 2564 อีกทั้งยังได้ส่งมอบไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ พม่า ฟิลิปปินส์ ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการครั้งนี้ด้วย ฉะนั้นการต่อยอดครั้งนี้จะตอบสนองความต้องการของโรงพยาบาลที่ต้องการปรับปรุงพื้นที่ในการตรวจรักษาและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค ” อัญชลี ชวนะลิขิกร กล่าวเสริม

 

สำหรับโปรเจกต์ ARI Clinic สามารถให้โรงพยาบาลออกแบบปรับปรุงพื้นที่ภายในโรงพยาบาลครอบคลุมทั้งห้องตรวจหัตถการ (PE Room) ห้องแยกผู้ป่วย (AIIR) ห้องคัดกรอง (Triage) ห้องตรวจเชื้อ (SWAB Unit) ห้องจ่ายยา/การเงิน (Dispensary Room) และพื้นที่พักคอย (Waiting Area) ซึ่งพื้นที่ที่ปรับปรุงจะสามารถป้องกันการแพร่เชื้อโรคแพร่สู่บุคลากรทางการแพทย์ ผู้มาใช้บริการภายในโรงพยาบาล ทำให้เกิดสุขลักษณะที่ถูกต้องในรักษาผู้ป่วย ปัจจุบัน ARI Clinic Project มีโรงพยาบาลเข้าร่วมแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลลาดยาว จ.นครสวรรค์, โรงพยาบาลทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช, โรงพยาบาลกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร และโรงพยาบาลสงขลา จ.สงขลา สำหรับโรงพยาบาลหรือหน่วยงานสาธารณสุขที่ต้องการคำแนะนำ-ปรึกษา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณกมลเนตร โทร. 089 177 5225

 

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564