"เยอรมนี" หนุนไทยใช้เทคโนฯ เปลี่ยน "พลังงานสะอาด"

สถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย ร่วมกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) เปิดงาน “พลังงานสะอาดขับเคลื่อนอนาคต” ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 18 มี.ค.2564 ณ สามย่านมิตรทาวน์ กรุงเทพฯ
 
งานนิทรรศนี้ เน้นนำเสนอการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและการคมนาคมขนส่งของโลกและประเทศไทยจากปัจจุบันไปสู่อนาคต เน้นการนำเอาเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ ปรับใช้ให้เกิดการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพ ต้นทุนลดลง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
 
"เกออร์ก ชมิดท์" เอกอัครราชทูตเยอรมันประจำประเทศไทย กล่าวในพิธีเปิดว่า Less is more ในที่นี้ หมายถึง ลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมให้น้อยลง เพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้มากขึ้น และจะลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับระบบนิเวศและมีชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างไร นิทรรศการนี้มีคำตอบ โดยนิทรรศการนี้ได้ให้แนวคิดและแนวทางปฏิบัติเพื่อเสริมสร้างอนาคตที่ดี มั่งคั่งและยั่งยืน เราทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนี้ได้
 
 “สรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์” รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า “กระทรวงคมนาคมตระหนักถึงความสำคัญของนวัตกรรมสมัยใหม่ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในภาคการขนส่ง ทางกระทรวงฯ สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและการพัฒนาเทคโนโลยีการขนส่งที่ยั่งยืน สะอาด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากภาคการขนส่งมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ  
 
ไทยจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ โดยมีมาตรการต่างๆ เพื่อการพัฒนาและส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในระบบขนส่งสาธารณะ และยังสอดคล้องกับแนวทางการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศที่มีสาเหตุมากจากการจราจรติดขัดในเขตเมือง 
 
“ปัจจุบันองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ กำลังวางแผนจัดหารถเมล์ไฟฟ้า 2,511 คัน หลังจากที่แผนฟื้นฟูกิจการได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ตนเชื่อว่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้คนกรุงเทพฯ จะได้ใช้รถเมล์ไฟฟ้า นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกยังได้ร่วมรณรงค์การลดมลภาวะทางอากาศโดยการลดภาษีรถยนต์ประจำปีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้การใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยแพร่หลายดังเช่นประเทศต่างๆ ในยุโรป” รองปลัดกระทรวงคมนาคม ระบุ 
 
“พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์” ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานอยู่ในระหว่างการจัดทำ “แผนพลังงานแห่งชาติ” โดยคำนึงถึงแนวคิดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งมุ่งเน้นการเสริมสร้างภาคพลังงานของประเทศให้มีความมั่นคงและสร้างความสามารถในการแข่งขันเพื่ออนาคตทางพลังงานที่ยั่งยืน 
 
“แผนพลังงานแห่งชาตินี้จะกำหนดอนาคตพลังงานของประเทศและเปลี่ยนภาคพลังงานให้สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้พลังงานหมุนเวียนและนวัตกรรมด้านพลังงานจะเป็นกุญแจสำคัญในการจัดทำแผนพลังงานแห่งชาติ เพื่อขับเคลื่อนทิศทางนโยบายพลังงานให้ประเทศไทยสามารถลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคพลังงาน รวมถึงการสร้างสังคมคาร์บอนตํ่าด้วยการดำเนินนโยบายที่ยั่งยืนในระยะยาว” พูลพัฒน์ กล่าวย้ำ
 
นอกจากนี้ ในปี 2565 ประเทศไทยจะเป็นประธานและเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลักคือ “โมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว” (Bio-Circular-Green Economy Model หรือ BCG) โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาความรู้ความสามารถ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อนำทรัพยากรด้านพลังงานของประเทศมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ ภายใต้แนวคิด BCG ดังกล่าว ภาคพลังงานถือเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่ช่วยพลิกโฉมประเทศไทยไปสู่การเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและมีนวัตกรรมต่อไป
 
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 15 มีนาคม 2564

@Admin TVBC

สนใจสมัครสมาชิกหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายเลขานุการฯ
โทร: 02-018-6888 ต่อ 4340
Email: tvbc.secretariat@gmail.com

:)