การขับเคลื่อนธุรกิจให้ได้ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ที่สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ สิ่งสำคัญคือธุรกิจต้องไม่หวั่นไหวกับวิกฤติจนไม่กล้าขยับ ไม่กล้าคิดโมเดลใหม่ๆ เพราะกรอบคิดแบบเดิมๆ ไม่สามารถใช้ได้อีกแล้ว

 

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ยังไม่น่าไว้วางใจ เพราะแม้จะมีวัคซีนให้ดูเหมือนว่าปลอดภัยระดับหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังไม่ควรประมาท ดูเคสคลัสเตอร์บางแคเป็นตัวอย่าง เราเห็นมาตรการป้องกันในทุกที่ ทั้งบังคับตรวจอุณหภูมิ ใส่หน้ากากอนามัย แต่สุดท้ายก็ยังเกิดคลัสเตอร์ การแพร่ระบาดออกมาอีกจนได้ ไม่รู้ว่า หลังจากนี้จะมีคสัสเตอร์ไหน ผุดขึ้นมาอีก เป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน อย่าละเลยการดูแลป้องกันตัวเอง ระบบการบริหารจัดการวัคซีนภาครัฐ ก็ต้องรัดกุม รอบคอบ เพราะแม้จะมีวัคซีน ก็ไม่ได้หมายความว่า โควิด จะหายไป แต่ทุกอย่าง ทุกความเป็นไปของโลก ยังต้องดำเนินต่อไป

 

การขับเคลื่อนธุรกิจให้ได้ท่ามกลางวิกฤติเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับทุกองค์กร แต่โชคดีที่ยุคนี้ เทคโนโลยีเฟื่องฟู เลือกนำมาประยุกต์ใช้ได้ แค่คนในองค์กรเปิดกว้าง และพร้อมที่จะเดินหน้าไปด้วยกัน ค่ำคืนที่ผ่านมา (17 มี.ค.) "กรุงเทพธุรกิจ” ร่วมกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ใช้เวที Clubhouse แอพยอดนิยมในการถกประเด็นร้อนๆ เปิดห้องให้พูดคุยกับซีอีโอองค์กรธุรกิจชั้นนำ ว่าหลังโควิดธุรกิจจะเอาอย่างไรต่อ มีหลายแง่มุมจากซีอีโอระดับตัวท็อปของธุรกิจไทย ถอดบทเรียนจากธุรกิจตัวเอง พร้อมชี้แนะเคล็ดลับที่ธุรกิจต้องเดินนับจากนี้

 

อย่าง ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร ซีอีโอ กลุ่มเอ็มเฟค บอกว่า วิกฤติที่เกิดขึ้นเป็นสถานการณ์ที่บีบบังคับทำให้องค์กรธุรกิจต้องพร้อมเปลี่ยนแปลง ซึ่งช่วงก่อนวิกฤติ ธุรกิจไอทีเองก็มีการเปลี่ยนแปลง 3 ส่วน คือ เทคโนโลยี ลูกค้า และบุคลากร แต่เมื่อเกิดวิกฤติขึ้นมา และชัดเจนว่าเราต้องอยู่กับวิกฤตินี้ให้ได้ ธุรกิจจึงต้องตีโจทย์ใหม่และมองไปข้างหน้าระยะยาว เพื่อจัดลำดับความสำคัญการลงทุน ถ้ายังอยู่ในเกมเดิม คงจะรอดยาก

 

แน่นอนว่า เทคโนโลยีเป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะสร้างเอสเคิร์ฟให้ทุกธุรกิจ ทุกวิชั่นใหม่ต้องใช้เทคโนโลยี ดังนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้นำองค์กรต้องคิดให้หนัก คิดให้มาก ปัจจัยสำคัญอาจไม่ใช่ต้องเทน้ำหนักไปที่เรื่องเทคโนโลยีทั้งหมด แต่ “คน” ถือว่าสำคัญที่สุด คนในองค์กรต้องเดินไปพร้อมกับการปรับเปลี่ยน เช่นเดียวกับ อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ซีอีโอ ปตท. มีความเห็นว่าวิสัยทัศน์ของ ปตท. ก็ต้องเปลี่ยน วิสัยทัศน์ใหม่ของ ปตท. คือ "powering life with future energy and beyond” ซึ่งปีนี้ ปตท.จะพยายามทำเรื่องใหม่ๆ หลังจากที่บริบทต่างๆ เปลี่ยนไป ต้องมองการลงทุนใหม่ๆ ให้ ปตท. และประเทศไทย

 

ขณะที่ซีอีโอบริษัทที่ปรึกษาด้านดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น อย่าง “บลูบิค” ก็เปิดมุมมองว่า ธุรกิจที่จะไปได้ดีหลังโควิดคือธุรกิจที่มีความคล่องตัวสูง เนื่องจากสถานการณ์วันข้างหน้าคาดเดาได้ยาก ไม่รู้ว่าจะมีอะไรมาท้าทายอีกบ้าง ความไม่นอนทำให้ธุรกิจต้องมีการปรับตัวทุกวัน วันนี้อาจพูดถึงเทรนด์อย่างหนึ่ง ต่อไปอาจจะเก่าไปแล้วก็ได้ การเปลี่ยนแปลงมีจำนวนมาก และเกิดขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ใครสามารถปรับตัวและมีความคล่องตัวสูง ก็จะมีโอกาสรอดในเกมนี้สูงเช่นกัน ธุรกิจต้องไม่หวั่นไหวกับวิกฤติจนไม่กล้าขยับ ไม่กล้าคิดโมเดลใหม่ๆ เพราะกรอบคิดแบบเดิมๆ ไม่สามารถใช้ได้อีกแล้วในโลกที่เดิมพันด้วยเกมสุดท้าทายแบบนี้

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 19 มีนาคม 2564