นายยาซูยูกิ ซาวาดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เปิดเผยว่า ได้วิเคราะห์เศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังได้รับผลกระทบอย่างมากจากการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 หลังจากเศรษฐกิจไทยติดลบ 6.1% เมื่อปี 63 แต่ในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้อยู่ที่ 3% และขยายตัวถึง 4.5% ในปี 65 เนื่องจากการกระจายการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 ทั่วโลก และการเพิ่มขึ้นของการค้าและการท่องเที่ยว ส่วนการส่งออกสินค้าและบริการคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.6% ในปีนี้ และ 12.5% ในปีหน้า

 

ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะกระเตื้องขึ้นที่ 2.1% ในปี 64 และ 3% ในปี 65 อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นที่ 1.1% ในปีนี้ และ 1% ในปี 65 โดยยังมีความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดใหญ่ในประเทศต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แผนการฉีดวัคซีนที่ล่าช้าของรัฐบาล แนวโน้มการระบาดระรอกใหม่ในประเทศ และมาตรการเยียวยาที่อาจได้ผลน้อยกว่าที่คาด อาจส่งผลต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจ การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนได้

 

สำหรับรายงานการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย ประจำปี 64 หากไม่รวมฮ่องกง จีน เกาหลี สิงคโปร์ และไต้หวัน เศรษฐกิจของประเทศเอเชียกำลังพัฒนาคาดว่าจะเติบโตที่ 7.7% ในปี 64 และ 5.6%  ในปี 65 ซึ่งการเติบโตกลับมาเคลื่อนไหวในประเทศเอเชียกำลังพัฒนา แต่การแพร่ระบาดของโควิด -19 ระลอกใหม่เป็นความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวเช่นกัน โดยแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศ การกระจายการฉีดวัคซีน และประโยชน์ที่ได้รับจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว

 

นอกจากนี้การส่งออกที่กระเตื้องขึ้นได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเอเชียกำลังพัฒนาบางประเทศกลับมาเข้มแข็งและการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการผลิต แม้ความก้าวหน้าของการผลิตและการส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด -19 เป็นสาเหตุให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว แต่การแพร่ระบาดที่ยังคงอยู่เป็นปัจจัยเสี่ยงสูงสำหรับภูมิภาค โดยแนวโน้มการกระจายวัคซีนที่ล่าช้าและการระบาดระลอกใหม่จะทำให้การเติบโตลดต่ำลง ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ได้แก่ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การผลิตที่ชะงักงัน ความปั่นป่วนทางการเงินจากสภาวะการเงินที่ตึงตัว และผลระยะยาวจากการปิดโรงเรียนเป็นต้น

 

“เศรษฐกิจของประเทศเอเชียกำลังพัฒนาโดยรวมจะเห็นสัญญาณการเติบโตที่ดีในปีนี้และปีหน้า โดยเศรษฐกิจในเอเชียกลางจะเติบโตโดยเฉลี่ยที่ 3.4% ในปี 64 และ 4% ในปี 65 ส่วนเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่พึ่งพาการค้าจะขยายตัวดีขึ้นเช่นกัน โดยคาดว่าจะเติบโต 4.4% ในปีนี้ และ 5.1% ในปีหน้า หลังจากหดตัวที่ 4% ในปี 63 ส่วนเศรษฐกิจในแปซิฟิกยังคงได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดในการเดินทางทั่วโลกและการล่มสลายของการท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้การเติบโตเป็นไปในระดับปานกลางที่ 1.4% ในปีนี้ ก่อนจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3.8% ในปีหน้า”

 

ขณะที่การส่งออกที่เข้มแข็งและการฟื้นตัวของการบริโภคภาคครัวเรือนอย่างค่อยเป็นค่อยไปจะช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้ โดยคาดว่าเศรษฐกิจของจีนจะขยายตัวที่ 8.1% ในปี 64 และ 5.5% ในปี 65 ส่วนเอเชียตะวันออกคาดว่าจะขยายตัวที่ 7.4% ในปี 64 และ 5.1% ในปี 65 ส่วนอัตราเงินเฟ้อในภูมิภาคคาดว่าจะลดต่ำลงจาก 2.8% ในปีที่แล้ว มาอยูที่ 2.3% ในปีนี้ แต่ถ้าแรงกดดันด้านราคาอาหารในจีนและอินเดียผ่อนคลายคง และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 2.7% ในปี 65

 

ที่มา business today

วันที่ 28 เมษายน 2564