วันที่ 20 พฤษภาคม การประชุมระหว่างประเทศครั้งที่ 26 เกี่ยวกับอนาคตเอเชียหรือ FOA 2021 ได้มีขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์หลังจากงดจัดการประชุมในปีที่แล้วเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19

 

การประชุมครั้งนี้มีหัวข้อคือ “กำหนดยุคหลังโควิด -19: บทบาทของเอเชียในกระบวนการฟื้นฟูทั่วโลก” ซึ่งมีผู้นำประเทศเอเชียหลายประเทศเข้าร่วม รวมทั้งประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น นายกรัฐมนตรีเวียดนาม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประธานประเทศลาว นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายกรัฐมนตรีไทยและรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสิงคโปร์

 

ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับเนื้อหาต่างๆเช่น “ เอเชียกับทางการใหม่สหรัฐ” “การขยายตัวอย่างยั่งยืนกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ในเอเชีย” “การเชื่อมโยงในภูมิภาคผ่านการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม” และ “การเปลี่ยนแปลงใหม่ในยุคโควิด- 19” เป็นต้น

 

ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ประเมินว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อโลกและภูมิภาค ซึ่งยากที่จะคาดเดาได้ ดังนั้น นี่เป็นช่วงเวลาที่ทุกประเทศต้องช่วยเหลือกันเพื่อเอาชนะการแพร่ระบาด

นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เสนอคำขวัญ 5 ข้อและ 6 เนื้อหาของความร่วมมือให้ทุกประเทศแสดงความคิดเห็น ร่วมกันเพื่อ “สร้างสรรค์เอเชียแห่งสันติภาพ ร่วมมือ พัฒนาอย่างเข้มแข็งมากขึ้นในยุคหลังวิกฤตโควิด – 19” พร้อมทั้งยืนยันว่า เวียดนามเข้าร่วมอย่างมีความรับผิดชอบและพร้อมร่วมมือกับทุกประเทศเพื่อเสริมสร้างสันติภาพและความสามัคคีเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ความเจริญรุ่งเรืองของแต่ละประเทศในภูมิภาคเพื่อความอิ่มหนำผาสุกของประชาชนในทั่วโลก

 

บนเจตนารมณ์ดังกล่าว นายกรัฐมนตรีเวียดนามยืนยันว่า เวียดนามจะส่งเสริมผลงานที่ได้บรรลุ ฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายเพื่อนำประเทศพัฒนาต่อไปโดยอาศัย 3 เสาหลักคือ ประเพณีด้านวัฒนธรรม – ประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของประชาชาติ คุณค่าของมนุษย์และทรัพยากรธรรมชาติ “ทัศนะของเวียดนามเกี่ยวกับการพัฒนาคือ พัฒนาอย่างรวดเร็วบนพื้นฐานนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลที่ค้ำประกันให้เศรษฐกิจพัฒนาอย่างกลมกลืนกับวัฒนธรรม การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ปรับปรุงกลไกการพัฒนาให้มีความสมบูรณ์และทันสมัยเพื่อเอื้อให้แก่การสร้างสรรค์บรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจของเศรษฐกิจทุกภาคส่วน 

 

ผลักดันความคาดหวังพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองและผาสุก ส่งเสริมปัจจัยมนุษย์ ถือมนุษย์เป็นศูนย์กลางโดยมนุษย์เป็นทั้งแหล่งพลังและพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดและเป็นเป้าหมายของการพัฒนา สร้างสรรค์ระบบเศรษฐกิจที่พึ่งพาตนเองบนพื้นฐานการเป็นเจ้าของในด้านเทคโนโลยีและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างเข้มแข็ง เพิ่มการปรับตัวของเศรษฐกิจ ในขณะที่การส่งเสริมพลังภายในคือปัจจัยชี้ขาด ส่วนพลังภายนอกคือพลังแห่งยุคสมัย ปฏิบัติแนวทางการต่างประเทศที่อิสระ หลายรูปแบบหลายฝ่าย เป็นฝ่ายรุกในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบของโลกด้วย”

 

นายกรัฐมนตรียังย้ำว่า เวียดนามพร้อมร่วมมือกับเพื่อนมิตรนานาชาติขยายความร่วมมือลงทุนในด้านต่างๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์ พลังงาน อุตสาหกรรมการผลิตและอุตสากรรมประกอบ การเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง อิเล็กทรอนิกส์ ตัวเมืองอัฉริยะและโลจิสติกส์ เป็นต้น

 

การที่นายกรัฐมนตรีเวียดนามฝ่ามมิงชิ้งได้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวถือเป็นการยืนยันอีกครั้งเกี่ยวกับบทบาทและสถานะของเวียดนามบนเวทีระดับภูมิภาค ทัศนะของเวียดนามเกี่ยวกับปัญหาใหญ่ๆของเอเชีย ประสบการณ์และมาตรการรับมือความท้าทายต่างๆของภูมิภาค ความพยายามควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด -19 และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ พร้อมทั้งมีส่วนร่วมขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในเชิงลึกกับญี่ปุ่น ผลักดันความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่นในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อดูดความสนใจของสถานประกอบการญี่ปุ่นและสถานประกอบการระหว่างประเทศผ่านการประชาสัมพันธ์ผลสำเร็จด้านเศรษฐกิจและสังคมของเวียดนาม รวมทั้งนโยบายพัฒนาใหม่ๆ

 

ที่มา vovworld.vn

วันที่ 20 พฤษภาคม 2564