เมื่อบ่ายวันที่ 29 พฤษภาคม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิง ได้เดินทางไปเยือนและประชุมกับผู้บริหารของจังหวัดบั๊กยางและจังหวัดบั๊กนิงห์ซึ่งเป็นจังหวัด 2 แห่งที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยจังหวัดบั๊กยางมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่กว่า 1,880 รายและจังหวัดบั๊กนิงมีกว่า 730 ราย

 

ที่จังหวัดบั๊กยาง สมาชิกรัฐบาลและบรรดารัฐมนตรีได้ตอบข้อเสนอของผู้บริหารจังหวัดฯเกี่ยวกับการส่งกองกำลังรับมือการแพร่ระบาด การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการรับมือการแพร่ระบาด การช่วยเหลือจังหวัดแก้ไขอุปสรรคในการส่งออกลิ้นจี่และการผลักดันการจำหน่ายภายในประเทศ โดยทางกระทรวงแรงงาน ทหารทุพพลภาพและสังคมได้ตกลงใช้กองทุนคุ้มครองเด็กเพื่อดูแลเด็กกว่า 4,800 คนที่กำลังได้รับการแยกตัว กองทัพภาคที่ 2 ตกลงรับกรรมกร 2,300 คนที่กำลังได้รับการแยกตัวในนิคมอุตสาหกรรม เวินจุงตามข้อเสนอของจังหวัดฯ

 

ในการกล่าวปราศรัยสรุปการประชุม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ยืนยันว่า เพื่อบรรลุผลสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาด ต้องระดมการเข้าร่วมของระบบการเมืองในท้องถิ่น อีกทั้งเห็นพ้องกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี การจัดทำฐานข้อมูลเพื่อช่วยผลักดันความสามารถในการตรวจสอบและการบริหารในการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาด

 

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งได้เดินทางไปเยือนโรงพยาบาลสนามเลขที่ 2 ในจังหวัดบั๊กยาง โดยใหกำลังใจและชื่นชมความพยายามของกองกำลังที่อยู่ในแนวหน้าในการรับมือการแพร่ระบาดและเสนอให้เจ้าหน้าที่ทหาร แพทย์พยายามมากขึ้นในการทดสอบหาเชื้อ

 

บ่ายวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เดินทางไปเยือนจังหวัดบั๊กนิงห์ โดยชื่นชมจังหวัดฯที่ได้มีความคิดสร้างสรรค์ เสนอมาตรการที่เหมาะสม ควบคุมการแพร่ระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ ปรับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้เป็นปกติโดยเร็ว อีกทั้งเสนอให้จังหวัดบั๊กนิงห์เดินหน้าปฏิบัติมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในวงกว้างมากขึ้น พิจารณาการปฏิบัติมาตรการเว้นระระห่างทางสังคมในวงกว้างมากขึ้นในนิคมอุตสาหกรรมและเขตใกล้เคียงจังหวัดบั๊กยาว ผลักดันการทดสอบหาเชื้อให้แก่กรรมกรในนิคมอุตสาหกรรมและเขตที่มีความเสี่ยงสูง ส่งเสริมบทบาทของระบบการเมืองในท้องถิ่นในการรับมือการแพร่ระบาด

 

ที่มา vovworld.vn

วันที่ 30 พฤษภาคม 2564