รอยเตอร์ - เวียดนามในวันนี้ (31) ได้สั่งระงับเที่ยวบินขาเข้าและกำหนดมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 เข้มงวดขึ้นในเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ และได้เรียกร้องให้มีการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิดจากภาคเอกชน ในความพยายามที่จะเข้าถึงวัคซีนและจัดการกับการระบาดที่ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วงเดือนที่ผ่านมา

 

เวียดนามยังไม่ได้เริ่มการฉีดวัคซีนกับประชาชนจำนวนมาก แต่รัฐบาลระบุว่า ต้องขจัดอุปสรรคในการเข้าถึงวัคซีน รวมทั้งการอนุญาตให้หน่วยงานท้องถิ่นและบริษัทต่างๆ จัดหาวัคซีนได้ด้วยตัวเองผ่านกระทรวงสาธารณสุขหรือผู้นำเข้าที่ได้รับอนุญาต 27 ราย

 

เวียดนามได้ติดต่อกับต่างประเทศเพื่อขอความช่วยเหลือในการจัดหาวัคซีน รวมทั้งสหรัฐฯ 

 

“ต้องมีมาตรการเพื่อให้ได้รับวัคซีนโดยเร็วที่สุด อุปสรรคทั้งหมดต้องหมดไป และปัญหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องได้รับการแก้ไข” รองนายกรัฐมนตรีหวู ดึ๊ก ดาม กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

 

หลังประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดในช่วงปีที่ผ่านมา เวียดนามพบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และตรวจพบโควิดสายพันธุ์ที่แพร่กระจายได้รวดเร็วหลายสายพันธุ์ ที่รวมถึงสายพันธุ์ใหม่ที่ประกาศเมื่อวันเสาร์ (29) ที่มีองค์ประกอบของสายพันธุ์ที่ตรวจพบครั้งแรกในอังกฤษและอินเดีย

 

เหวียน แถ่ง ลอง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า เป้าหมายของการได้รับวัคซีนป้องกันโควิด 150 ล้านโดสในปีนี้ ‘เป็นไปได้’

 

เวียดนามได้อนุมัติวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าและสปุตนิกวี และเมื่อวันเสาร์ (29) เหวียน แถ่ง ลอง กล่าวว่า วัคซีนของโมเดอร์นาและไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค อยู่ระหว่างยื่นขออนุมัติ

 

รัฐบาลกล่าวในวันนี้ (31) ว่าเที่ยวบินระหว่างประเทศมายังกรุงฮานอยจะถูกระงับจนถึงวันที่ 7 มิ.ย. หลังจากนครโฮจิมินห์ได้ดำเนินการระงับเที่ยวบินแบบเดียวกันนี้ไปแล้วก่อนหน้า ขณะเดียวกัน นครโฮจิมินห์ยังเริ่มดำเนินมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดเป็นเวลา 15 วัน ที่รวมทั้งการห้ามทานอาหารในร้านอาหาร ห้ามการรวมกลุ่มในที่สาธารณะเกินกว่า 10 คน รวมถึงปิดกาสิโนและร้านเสริมสวย

 

เวียดนามมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม 7,321 คน และมีผู้เสียชีวิต 47 คน และการระบาดระลอกใหม่ได้กระจายไปใน 34 จังหวัดจาก 63 จังหวัดของประเทศ รวมถึง จ.บั๊กนิง และ จ.บั๊กซยาง ที่เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก เช่น บริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ และบริษัทฟ็อกซ์คอนน์

 

เจ้าหน้าที่ได้เริ่มฉีดวัคซีนให้คนงานใน จ.บั๊กนิง และ จ.บั๊กซยาง เมื่อวันศุกร์ (28) โดยแต่ละจังหวัดได้รับวัคซีน 150,000 โดส ตามการระบุของกระทรวงสาธารณสุข

 

ผู้แทนองค์การอนามัยโลกในเวียดนามกล่าวว่า โควิดสายพันธุ์ลูกผสมที่ประกาศเมื่อสุดสัปดาห์นั้นเป็นสายพันธุ์อินเดียที่มีการกลายพันธุ์แบบที่พบในสายพันธุ์อังกฤษ โดยอ้างถึงการหายไปของเซลล์ Y144 ในโปรตีนหนาม

 

“การกลายพันธุ์ของไวรัสเป็นสิ่งที่คาดไว้” กิดง ปาร์ค กล่าว และเสริมว่า องค์การอนามัยโลกกำลังเฝ้าติดตามการกลายพันธุ์และจะสนับสนุนการตรวจสอบหากจำเป็น

 

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

วันที่ 31 พฤษภาคม 2564