หอการค้า ชี้วัคซีนฟื้นเชื่อมั่น เอกชนเล็งปรับแผนธุรกิจไตรมาส 3
หอการค้า ชี้แผนฉีดวัคซีนฟื้นความเชื่อมั่นธุรกิจ หวังรัฐฉีดให้ได้ตามแผน หนุนเริ่มปรับแผนธุรกิจไตรมาส 3 หนุนเศรษฐกิจฟื้นช่วงปลายปี ภาคการผลิตคาดปรับแผนหลังผู้ติดเชื้อต่ำกว่าหลักพัน
รัฐบาลมีกำหนดปูพรมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในวันที่ 7 มิ.ย.2564 ซึ่งภาครัฐได้เตรียมพื้นที่ฉีดวัคซีนทั้งในโรงพยาบาลและนอกโรงพยาบาลทั่วประเทศ หลังจากมีความจัดเจนของวัคซีนที่ภาครัฐทยอยรับมอบทั้งวัคซีนซิโนแวคและวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ทำให้ให้ภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวกับ 'กรุงเทพธุรกิจ' ว่า ขณะนี้วัคซีนที่มีกำหนดส่งมอบในเดือน มิ.ย.2564 เริ่มทยอยส่งมอบ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องติดตามว่าจะมีการกระจายและปูพรมฉีดได้ตามแผนที่วางไว้แค่ไหน
ทั้งนี้ คาดว่าจะเห็นภาพรวมชัดเจนได้ในไตรมาส 3 และจะสร้างความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจได้มากขึ้น ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นจะทำให้ผู้ประกอบการเริ่มพิจารณาว่าจะปรับแผนธุรกิจอย่างไร ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการขอรอดูผลการฉีดวัคซีนและการกระจายวัคซีนก่อน
รวมนี้การฉีดวัคซีนทำให้เปิดประเทศได้ โดยการฉีดวัคซีนใน จ.ภูเก็ต จำนวนมากเพื่อนำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยว และเห็นด้วยที่จะเพิ่มพื้นที่แซนด์บ็อกซ์อีก 9 แห่ง จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี หากทำตามโมเดลของภูเก็ต โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจไทย เพราะมั่นใจกับการกระจายวัคซีนที่เริ่มไปตามแผน ซึ่งจะสร้างงานและกระตุ้นภาคบริการได้
นายสนั่น กล่าวว่า ส่วนภาคการผลิตอาจจะมีการปรับแผนธุรกิจไม่มากเพราะมีการผลิตเพื่อส่งออกส่วนหนึ่ง ในขณะที่การส่งออกในช่วง 4 เดือน แรกของปีนี้ ขยายตัวได้ดี และคาดว่าหลังจากนี้ยังมีแนวโน้มไปได้ดี เพียงแต่ต้องเฝ้าระวังปัญหาการระบาดในโรงงาน เพื่อไม่ให้กระทบกับการผลิต
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ขณะนี้เป็นเรื่องดีที่วัคซีนเข้ามาตามกำหนด 6-10 ล้านโดส ในเดือน มิ.ย.นี้ และคนไทยได้ฉีดจะส่งผลทางด้านจิตวิทยาและสร้างความเชื่อมั่นต่อภาคธุรกิจ
รวมทั้งหากเดือน ก.ค.นี้ มีวัคซีนเข้ามาต่อเนื่องและฉีดวัคซีนได้จำนวนมาก จะทำให้ความมั่นใจของธุรกิจเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งภาคธุรกิจต้องพร้อมรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการเตรียมสภาพคล่องการทำธุรกิจ
ทั้งนี้ คาดว่าไตรมาส 4 เศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้นตัวและกำลังซื้อกลับมาพร้อมความมั่นใจ บวกกับ "ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" ที่รับนักท่องเที่ยวเดือน ก.ค.นี้ จะยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่น และการที่คนไทยฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม จะเดินทางไปทำธุรกิจต่างประเทศได้และกลับมาโดยใช้ "ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์"
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า แม้ว่ารัฐจะปูพรมฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.นี้ แต่ยังไม่มั่นใจพอที่จะปรับแผนธุรกิจทันทีเพื่อรองรับตลาดฟื้นตัว เพราะหากผู้ติดเชื้อต่อวันสูงกว่า 1,000 คน ก็ยังไม่มั่นใจที่ธุรกิจจะขยับตัว
โดยต้องรอจนกว่าผู้ติดเชื้อใหม่ต่อวันจะเหลือหลักสิบถึงหลักร้อยจึงปรับแผนธุรกิจ ซึ่งก่อนระบาดรอบ 3 ผู้ประกอบการเริ่มทำกิจกรรมทางธุรกิจใหม่ แต่หลังเกิดรอบ 3 ทุกอย่างหยุดนิ่งและมองว่าต้องรอให้ฉีดวัคซีนจนเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และรอเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ก่อนจึงจะมั่นใจ
นอกจากนี้ การระดมฉีดวัคซีนกระจุกในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ ขณะที่โรงงานส่วนใหญ่ในต่างจังหวัด โดยเฉพาะ จ.ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ สมุทรสาคร พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ยังไม่มีแผนจัดสรรชัดเจน โดยรัฐควรเร่งฉีดในพื้นที่โรงงานหนาแน่น และในนิคมอุตสาหกรรมเพื่อไม่ให้กระทบต่อภาคการผลิต
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 7 มิถุนายน 2564