เร่งฉีด-เร่งกระตุ้น เศรษฐกิจประเทศ
ขณะนี้หลายประเทศระดมฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างทั่วถึง รวดเร็ว มีคุณภาพ และเริ่มเปิดประเทศ ประเทศไทยจึงช้าไม่ได้ ต้องเร่งบูรณาการความร่วมมือเชิงรุก รัฐต้องเร่งวางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาว ทำอย่างไรให้กลับไปยืนในจุดที่นักลงทุนให้ความเชื่อมั่น
ปฏิบัติการปูพรมฉีดวัคซีนของไทย วาระแห่งชาติของประเทศ มีเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดสภายในปีนี้ เพื่อให้ครอบคลุม 70% ของประชากร เพียงพอที่จะประคองตัวเดินหน้ากิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่ อัตราเร่งของการฉีดและการกระจายจุดฉีดให้ครอบคลุมเพิ่มขึ้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องปรับแก้ให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ให้ได้จนกว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตจะลดลง ยิ่งลดลงเร็วเท่าไหร่ ยิ่งสร้างความเชื่อมั่นในการทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ที่หลายอย่างถูกปิดตายไปมากกว่า 3-4 เดือน กลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง ประสบปัญหาวิกฤติอย่างหนักหน่วง ปิดกิจการ ปิดกิจกรรมทางธุรกิจไปมากมาย ยอดขายลดลงครึ่งต่อครึ่ง รอการฟื้นฟู เยียวยาจากภาครัฐอย่างเร่งด่วน
หลายเสียงสะท้อนเป็นไปทิศทางเดียวกันว่า “ไม่ไหวแล้ว” ดังนั้นระหว่างเร่งปูพรมฉีดวัคซีน รัฐต้องหาวิธีประคองบรรดาธุรกิจเหล่านี้ควบคู่ไปด้วย การผนึกกำลังของสภาหอการค้าไทย ผู้แทนหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวงจรขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ กับภาครัฐนำโดย รองนายกฯ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ในการดำเนินนโยบาย Connect the Dots ภารกิจ 99 วันแรก มุ่งช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการที่เผชิญวิกฤติ และเร่งให้มีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงปรับปรุงกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการในการทำธุรกิจ ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นในห้วงเวลานี้ และต้องทำอย่างเร่งด่วนมากๆ แม้อาจจะมาช้าเกินไป แต่ก็ยังดีกว่าไม่ขยับทำอะไรเลย
ข้อมูลของสภาหอการค้าฯ ระบุว่า ผู้ประกอบการจำนวนมากโดยเฉพาะรายเล็ก ประสบปัญหาสภาพคล่อง บางรายต้องพึ่งแหล่งเงินกู้นอกระบบ เพราะไม่สามารถเข้าถึง Soft Loan ของภาครัฐ จึงจะเสนอให้ภาครัฐผ่อนคลายกฎระเบียบ ให้สถาบันทางการเงินมีอิสระในการใช้ดุลยพินิจ ผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อได้เพิ่มมากขึ้น หรืออาจปลดล็อกให้ลูกหนี้ที่ติดเครดิตบูโร หรือเอ็นพีแอลเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเสริมสภาพคล่องให้เอสเอ็มอี ภาคบริการ ภาคท่องเที่ยว โดยเฉพาะท่องเที่ยวที่เราตั้งเป้าว่าจะเปิดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ 1 ก.ค.แต่จนถึงวันนี้ ก็ยังต้องมีลุ้น
ขณะที่แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกกำลังค่อยๆ ดีขึ้น หลายประเทศระดมฉีดวัคซีนให้ประชาชนในประเทศของเขาอย่างทั่วถึงรวดเร็ว และมีคุณภาพ ทำให้หลายเมืองๆ ในโลกเริ่มเปิดประเทศ มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การใช้ชีวิตเกือบจะเป็นปกติ ประเทศไทยจึงช้าไม่ได้ ต้องเร่งบูรณาการความร่วมมือเชิงรุกในทุกภาคส่วน เพื่อให้การปูพรมฉีดวัคซีนเป็นไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่รัฐต้องเร่งวางแผนดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่ใช่แค่แผนระยะสั้น แต่ต้องมองระยะยาว ทำอย่างไรให้ประเทศไทยต้องกลับไปยืนในจุดที่นักลงทุนให้ความเชื่อมั่น พร้อมหอบเงินเข้ามาลงทุน กิจกรรมเศรษฐกิจในประเทศคึกคัก ต่างชาติพร้อมปักหมุดเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยว
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 11 มิถุนายน 2564