เศรษฐกิจประเทศจีน ช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ขยายตัวเพียง 4.9% หลังเผชิญกับวิกฤตพลังงาน

 

วันที่ 18 ตุลาคม 2564 สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยข้อมูลว่า เศรษฐกิจประเทศ “จีน” ช่วงไตรมาส 3 (กรกฎาคม – กันยายน) ที่ผ่านมา ขยายตัวเพียง 4.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว น้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งเดิมคาดว่าจะขยายตัว 5.2%

 

ทั้งนี้ เมื่อช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา จีนเผชิญปัจจัยเสี่ยง ที่ได้มีผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างชัดเจน เช่น กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง และปัญหาการผลิตไฟฟ้าในประเทศจีน ซึ่งเกิดจากนโยบายควบคุมการใช้ไฟฟ้า รวมถึงราคาถ่านหินที่สูงขึ้นอย่างมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตพลังงานไฟฟ้าสูงขึ้น ซึ่งได้ทำให้ไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อความต้องการภาคอุตสาหกรรม

 

ขณะเดียวกัน สถาบันการเงินหลายแห่งอย่าง “โกลด์แมน แซกส์” และ “โนมูระ” ได้หั่นคาดการณ์ขยายตัวจีดีพีประเทศจีนในปีนี้ จากผลกระทบของวิกฤตพลังงาน โดยโกลด์แมน แซกส์ ได้ปรับลดคาดการณ์จาก 8.2% ลงเหลือ 7.8% ขณะที่โนมูระ หั่นการขยายตัวของจีดีพีจาก 8.2% เหลือเพียง 7.7%

 

นอกจากนี้ “วิกฤตเอเวอร์แกรนด์” ซึ่งเป็นยักษ์อสังหาริมทรัพย์อันดับ 2 ของจีน ยังส่งผลกระทบต่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ โดยการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ลดลงมากถึง 3.5% และทำให้ช่วง 9 เดือนแรกของปี ภาคอสังหาริมทรัพย์เติบโตต่ำกว่าเป้าหมายอยู่ที่ 7.3% จากที่คาดการณ์ว่าจะเติบโต 7.9%

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

วันที่ 18 ตุลาคม 2564