ผู้นำเวียดนามเยือนฝรั่งเศสหารือ "ปธน.มาครง" เพิ่มความร่วมมือรอบด้าน เซ็นข้อตกลง 29 ฉบับ
MGR ออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีฝ่าม มีง จีง ของเวียดนาม และประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เห็นพ้องร่วมกันที่จะเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของสองประเทศ ระหว่างที่ทั้งสองฝ่ายพบหารือกันในฝรั่งเศส
ผู้นำเวียดนามและฝรั่งเศสได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนเพิ่มเติมจากเดิม โดยผู้นำสองชาติเห็นพ้องกันทั้งในทิศทางและมาตรการสำหรับความร่วมมือในอนาคต เพื่อกำหนดเงื่อนไขที่เอื้อต่อการแลกเปลี่ยนการค้าทวิภาคี
พวกเขายังเห็นพ้องกันที่จะส่งเสริมความร่วมมือในด้านสำคัญต่างๆ เช่น การขนส่ง โครงสร้างพื้นฐาน การเกษตร สิ่งแวดล้อม พลังงาน และการบิน และทำงานเพื่อสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางอุตสาหกรรมระยะยาวบนพื้นฐานของการถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น พลังงานสะอาด เกษตรอินทรีย์ และเทคโนโลยีดิจิทัล
ประธานาธิบดีมาครง ได้กล่าวชื่นชมถึงบทบาทของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และย้ำถึงความสำคัญของการคงไว้ซึ่งความมั่นคง ความปลอดภัย และเสรีภาพในการเดินเรือและการบิน และสนับสนุนกฎหมายระหว่างประเทศ ที่รวมถึงอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล 1982 (UNCLOS) โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นทะเลจีนใต้ ที่เวียดนามเรียกว่าทะเลตะวันออก
ฝ่ายนายกฯ ฝ่าม มีง จีง ได้กล่าวยกย่องความร่วมมือระหว่างสองประเทศในเวทีการประชุมพหุภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวียดนามดำรงตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติเมื่อต้นปี และเขายังหวังให้ฝรั่งเศสเป็นสะพานเชื่อมในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามและสหภาพยุโรป ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนและสหภาพยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฝรั่งเศสเป็นประธานสหภาพยุโรปในเดือน ม.ค. ปีหน้า
ผู้นำเวียดนามกล่าวเสริมว่า เขาหวังให้ฝรั่งเศสจะยังคงจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์และถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตยาโควิด-19 และช่วยเวียดนามปรับปรุงขีดความสามารถทางการแพทย์ของประเทศต่อไป
ด้านผู้นำฝรั่งเศสได้กล่าวขอบคุณเวียดนามสำหรับการสนับสนุนหน้ากากอนามัยระหว่างการระบาดของโควิด-19 เมื่อปีก่อน และประกาศว่าฝรั่งเศสจะจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้เวียดนาม 400,000 โดส ผ่านช่องทางทวิภาคี และอีก 970,000 โดส ผ่านโครงการโคแว็กซ์ ทำให้วัคซีนที่ฝรั่งเศสมอบให้เวียดนามมีจำนวนรวมมากกว่า 2 ล้านโดส
และในระหว่างการเยือนฝรั่งเศสของผู้นำเวียดนามครั้งนี้ ทั้งสองประเทศยังได้ร่วมลงนามข้อตกลงถึง 29 ฉบับ ที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
นายกฯ จีง ได้ร่วมเป็นพยานการลงนามข้อตกลงต่างๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการประชุมทางธุรกิจระหว่างเวียดนามและฝรั่งเศส ที่จัดขึ้นโดยกระทรวงการวางแผนและการลงทุน และสมาพันธ์นายจ้างแห่งฝรั่งเศส
ในบรรดาข้อตกลงที่ลงนามร่วมกันยังรวมถึงข้อตกลงระหว่างบริษัทวินฟาสต์และ EDF Group ที่เกี่ยวกับการจัดหาและติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้าและบริการชาร์จไฟฟ้าสำหรับลูกค้าวินฟาสต์ในฝรั่งเศส
สายการบินเวียดเจ็ทและบริษัทแอร์บัสได้ลงนามข้อตกลงจัดหาเครื่องบิน 184 ลำ และการส่งมอบเครื่องบิน A330 จำนวน 3 ลำ พร้อมเงื่อนไขอื่นๆ
ธนาคาร HD Bank ของเวียดนามลงนามกับสถาบันการเงิน Proparco สำหรับการสนับสนุนสินเชื่อระยะยาวมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการพลังงานหมุนเวียนของเวียดนาม และข้อตกลงอีกฉบับกับบริษัท DEG ของเยอรมนีมูลค่า 200-300 ล้านดอลลาร์ สำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายบริษัทที่ได้ลงนามข้อตกลงด้านต่างๆ ทั้งด้านการบิน โครงการพลังงาน อสังหาริมทรัพย์ การแพทย์ และการพัฒนาการท่องเที่ยว เป็นต้น
การเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีฝ่าม มีง จีง ระหว่างวันที่ 3-5 พ.ย. เกิดขึ้นหลังจากผู้นำเวียดนามเดินทางไปอังกฤษเพื่อเข้าร่วมการประชุม COP26 ซึ่งการเยือนแดนน้ำหอมครั้งนี้ถือเป็นการเยือนประเทศในยุโรปอย่างเป็นทางการครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรี
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564