"วินฟาสต์" ค่ายรถเวียดนามวางแผนเข้าตลาดหุ้น-ผลิตรถไฟฟ้าในสหรัฐฯ ภายในปี 67
รอยเตอร์/เอพี - บริษัทวินฟาสต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเวียดนามวางแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ตามการเปิดเผยของผู้บริหารระดับสูงของบริษัท
ไมเคิล โลห์เชลเลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของวินฟาสต์ โกลบอล กล่าวให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า วินฟาสต์ ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 โดยเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทวินกรุ๊ป เจเอสซี กลุ่มธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเวียดนาม วางแผนที่จะเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 ด้วย
“แน่นอนว่าเราทำงานในวิธีการต่างๆ ซึ่งรวมถึงแผนการเสนอขาย IPO ในสหรัฐฯ เพื่อระดมทุนเพิ่มเติมในปีหรือ 2 ปีข้างหน้า” โลห์เชลเลอร์ อดีตผู้บริหารค่ายรถยนต์โฟล์คสวาเกน และโอเปิล ที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งที่วินฟาสต์ในเดือนก.ค. กล่าว
โลห์เชลเลอร์กล่าวว่า บริษัทที่มีโรงงานผลิตอยู่ในเวียดนาม มองว่าการผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ เป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธที่สำคัญ เพราะการจัดส่งรถยนต์ไปทั่วโลกไม่ใช่แผนระยะยาว
“เราต้องการทำทุกอย่างในท้องถิ่น” โลห์เชลเลอร์ กล่าว
วินฟาสต์เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์ (SUV) ของบริษัท 2 รุ่น คือ รุ่น VF e35 และ VF e36 ที่งานแสดงรถยนต์ลอสแองเจลิส ออโต้ โชว์ เมื่อวันพุธ (17) โดยบริษัทจะเริ่มเปิดรับคำสั่งซื้อล่วงหน้าในตลาดสหรัฐฯ สำหรับรถเอสยูวีไฟฟ้านี้ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2565 และคาดว่าจะเริ่มส่งมอบรถได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีเดียวกัน
ในขั้นต้น รถไฟฟ้าจะผลิตขึ้นที่โรงงานแห่งใหม่ในเวียดนาม โดยบริษัทวางแผนสร้างโรงงานในสหรัฐฯ ที่จะเริ่มการผลิตได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 ที่ในขณะนี้บริษัทกำลังดูสถานที่ก่อสร้างโรงงาน
รถยนต์ไฟฟ้ารุ่น VF e35 จะมีระยะทางสูงสุด 499 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ขณะที่รุ่น VF e36 จะสามารถเดินทางได้สูงถึง 679 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โลห์เชลเลอร์กล่าวให้สัมภาษณ์ โดยที่ยังไม่ได้เปิดเผยราคา
วินฟาสต์ ที่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ อยู่ในลอสแองเจลิส วางแผนที่จะจำหน่ายรถยนต์ผ่านเครือข่ายโชว์รูมของตัวเอง โดยดำเนินการสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ และบริษัทมีแผนเปิดโชว์รูมในรัฐแคลิฟอร์เนียทั้งหมด 60 แห่ง นอกจากนี้ยังจะมีศูนย์บริการและหน่วยบริการเคลื่อนที่ ที่จะให้บริการลูกค้าถึงที่บ้านด้วย โลห์เชลเลอร์ระบุ
ปัจจุบัน บริษัทวินฟาสต์จำหน่ายรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในและระบบส่งกำลังไฟฟ้าในเวียดนามอยู่แล้ว
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 18 ธันวาคม 2564