ในการนี้ ประธานาธิบดี วลาดีเมียร์ ปูตินได้ประเมินว่า การเยือนครั้งนี้ของประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุก ได้สร้างพลังขับเคลื่อนที่เข้มแข็งเพื่อกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างสองประเทศ พร้อมทั้งยืนยันว่า รัสเซียถือเวียดนามเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ชั้นนำในภูมิภาค ส่วนประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุก ได้ยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานและหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านกับรัสเซียและมีความประสงค์ว่า จะผลักดันความร่วมมือทวิภาคีในทุกด้าน

 

ผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องที่จะผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับหลังจากที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19  ได้รับการควบคุม ตั้งใจพัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจให้เป็นเสาหลักที่สำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ เห็นพ้องที่ปฏิบัติข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับสหภาพเศรษฐกิจเอเชีย-ยุโรปอย่างมีประสิทธิภาพ เอื้อให้แก่กิจกรรมการแลกเปลี่ยนการค้าและการลงทุนทวิภาคี 

 

ผู้นำทั้งสองท่านได้ยืนยันว่า พลังงานและปิโตรเลียมเป็นหนึ่งในเสาหลักสำคัญของความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างสองประเทศ พร้อมทั้งเห็นพ้องที่จะธำรงและขยายการดำเนินงานของสถานประกอบการปิโตรเลียมเวียดนามในรัสเซียและสถานประกอบการปิโตรเลียมรัสเซียในไหล่ทีปของเวียดนามที่สอดคล้องกับกฎหมายสากล 

 

เอื้อให้แก่ความร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านการจัดสรรก๊าซเหลว ไฟฟ้าพลังความร้อน  เป็นต้น ผลักดันโครงการก่อสร้างศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์ในเวียดนาม หารือเกี่ยวกับการประสานงานในการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ การรักษาความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รวมทั้งทะเลตะวันออกที่สอดคล้องกับกฎหมายสากล

 

ผู้นำทั้งสองประเทศได้ออกแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านเวียดนาม-รัสเซียจนถึงปี 2030 หลังการเจรจา ประธานาธิบดี วลาดีเมียร์ ปูติน ได้จัดงานเลี้ยงแด่ประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุก

 

ที่มา vovworld.vn

วันที่ 1 ธันวาคม 2564