ผมมีบริษัทหลายแห่ง สังเกตว่าทำไมบางบริษัทโตเร็ว แต่บางบริษัทโตช้า รวมถึงตัวผมเองด้วย ปัญหาของบางบริษัทที่โตช้าหรือไม่ค่อยโต ต้องดูที่ผู้นำองค์กร หรือผู้บริหารหรือเจ้าของเป็นหลัก

 

ผู้บริหารเองมีหลายแบบ คือ แบบแรกพวกที่ชอบไปข้างนอก ไปเจอคน ไปงานสัมมนา ไปหาเพื่อนใหม่ ๆ หาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ผมเองอยู่ในประเภทนี้ อีกแบบ คือ ไม่ไปไหนเลย ชอบนั่งอยู่ที่โต๊ะ ทำแต่งานเดิม ๆ ไม่พบปะผู้คน ไม่สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ จะสังเกตว่าองค์กรที่มีผู้นำแบบนี้ การที่จะเกิดอะไรใหม่ โอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ นวัตกรรมใหม่ ๆ จะน้อย เพราะชินกับการทำงานแบบเดิม ๆ

 

สังเกตแถวเยาวราช วัฒนธรรมแบบคนจีนที่มาแรก ๆ จะพยายามทำทุกอย่างมากมาย โอกาสจึงเกิดขึ้นมากมาย เมื่อเจเนอเรชั่นหลัง ๆ ไม่ทำแบบคนยุคก่อน นั่งโต๊ะเซ็นเอกสาร ไม่สร้างสิ่งใหม่ ธุรกิจยุคหลังจึงเริ่มนิ่ง บางคนอาจสนุกกับงานในบริษัท อาจเติบโตในเชิงของรายได้ แต่ในแง่การขยายธุรกิจใหม่ ๆ อาจลำบาก

 

ทำไมผู้นำถึงต้องออกไปนอกองค์กร เพราะคุณ คือ ผู้กำหนดทิศทางธุรกิจว่าจะเดินไปในทิศทางใด การส่งทีมงานไปหาโอกาสใหม่ต่างกับผู้นำไปเอง เพราะความต้องการที่จะได้หรืออยากรู้ต่างกัน และการพูดคุยกับผู้บริหารบริษัทอื่น เขาไม่ได้อยากคุยกับระดับทีมงาน ในแง่โอกาสในการคุย หรือโอกาสในการเกิดธุรกิจจึงต่างกัน

 

บางองค์กรที่ไม่มีการกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรม ลูกน้องทำไปเรื่อย ๆ ให้ทำอะไร บางทีไม่คิดตาม เพราะเขาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย อยากให้ผู้บริหารสังเกตดูว่าลูกน้องคนที่มาเช้ากลับดึก นั่งทำงาน ๆ อาจไม่ใช่แนวทางหรือวิธีที่ดี

 

อาจต้องเริ่มผสมผสาน หาโอกาสใหม่ ๆ พาตัวเองไปพื้นที่ใหม่ ๆ เพื่อเจอคนใหม่ ๆ

 

4 วิธี สร้างการเติบโตหรือโอกาสใหม่ ๆ ให้ธุรกิจ :

 

1)หาคนเก่งมาช่วยทำงานประจำแทน 

ข้อนี้สำคัญมาก โดยเฉพาะคนที่ต้องเซ็นเอกสาร ต้องแยกให้ออกว่างานอะไรให้คนอื่นมาทำแทนได้ งานประจำงานที่ทำซ้ำ ๆ ควรมอบให้ผู้บริหารเบอร์รองลงไปมาดูแลแทน

 

เป็นกับดักอย่างหนึ่งของ SMEs ที่ธุรกิจควรโตได้ แต่ไม่โต เพราะไม่อยากให้คนอื่นมาทำงานแทน และการจ้างคนเก่ง ๆ ก็ไม่อยากจ่ายมาก แต่คนเก่งมาพร้อมกับราคา การจ้างคนที่ไม่มีประสบการณ์ต้องเสียเวลาสอนงาน ทั้งยังไม่สามารถตัดสินใจเองได้ ต้องรอคุณ องค์กรก็ไม่ไปไหน

 

2)หาโอกาสพาตนเองไปพื้นที่ใหม่ เจอคนใหม่ๆ 

วิธีการไปเจอได้ และผมทำเป็นประจำ คือ มีการรวมตัวกันของกลุ่มคนในอุตสาหกรรมเดียวกับของคุณ สมาคม ชมรมธุรกิจต่าง ๆ ให้เอาตัวเข้าไปอยู่กับคนในกลุ่มนั้น จะได้เจอคนที่คล้ายคลึงกัน เจอคอนเน็กชั่นใหม่ ๆ งานบางอย่างทำคนเดียวไม่ผ่าน

แต่เมื่อรวมกันเป็นกลุ่มในนามสมาคม การทำงาน การต่อรอง หรือพูดคุยกับรัฐจะง่ายขึ้น งานอีเวนต์ สัมมนา เปิดตัวหรือกีฬา เช่น ปั่นจักรยาน วิ่ง ตีกอลฟ์ ฯลฯ พยายามไป เมื่อไปแล้วอย่าหมกตัวหรือหลบ แม้คุณจะเป็นพวก introvert ก็ต้องพยายามปรับตัว จะทำให้มีโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น

 

3)อ่านสิ่งใหม่ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ 

สิ่งที่ผมเชื่อมาตลอด คือ ยิ่งมีความรู้ใหม่เข้ามาในหัวเรา สิ่งที่ได้กลับมา คือ แนวคิดใหม่ (new input = new output) ลองอ่านข่าว ไม่ใช่แค่ในประเทศ อ่านจากสื่อต่างประเทศด้วยจะเห็นโอกาสจากตรงนั้นมากขึ้น เมื่อเห็นอะไรใหม่ ๆ มุมมองทางธุรกิจก็จะเปลี่ยนไป

 

4)สร้างทีม business development หรือ BD 

หลายองค์กรเมื่อต้องการสร้างอะไรใหม่หรือมีโปรเจ็กต์ใหม่ มักไม่มีคนทำ สิ่งที่ผมอยากแนะนำ หากต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลง คุณต้องมีทีม BD หรือ business development

ทีมนี้เหมือนเป็นขุนพลข้างกายผู้บริหาร เวลาผู้บริหารไปพบปะใครจะเปิดดีลก่อน รายละเอียดที่เหลือทีม BD จะเป็นคนที่ทำงานต่อ ทักษะคนที่เป็น BD ต้องทำ project management บริหารโปรเจ็กต์เป็น คุมเวลาได้ ควบคุมงาน พูดคุย และเข้าใจการทำงาน หรือโครงสร้างของบริษัท เข้าใจธุรกิจว่าเป็นอย่างไรเพื่อที่จะทำงานกับพาร์ตเนอร์ได้ ปัญหาของ SMEs ส่วนใหญ่ ไม่มี BD เมื่อไม่มี ต้องทำเอง ทำให้ต้องทำทุกอย่างไม่มีเวลาไปพัฒนาอย่างอื่น

 

บอกเลยว่า หากคุณต้องการโต คุณต้องมีคนหนึ่งที่เก่ง มีทักษะในการทำ business development ถ้าไม่มีจะมีโอกาสโตน้อย

 

เทคนิค 4 ข้อนี้ คุณทำได้ เพราะผมทำมาแล้ว หากคุณหรือผู้นำคุณเป็นอย่างที่บอกตอนต้น ลองส่งบทความนี้ให้เขาอ่านหรืออยากเปิดโลกใหม่ ๆ ผมทำหลักสูตร DEF ที่ DEFbySPU.com รวมถึงทำงานหลายสมาคม แนะนำให้ลองหาโอกาสมาเรียนรู้สิ่งใหม่กันครับ

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565