เม.ย.นี้เที่ยวสิงคโปร์ได้ไม่ต้องกักตัว
นายกฯ สิงคโปร์แถลง สัปดาห์หน้านักเดินทางฉีดวัคซีนครบแล้วเข้าประเทศได้ไม่กักตัว พร้อมยกเลิกข้อจำกัดอีกหลายอย่าง ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการอยู่ร่วมกับโควิด
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.เป็นต้นไป ผู้ใหญ่ที่ฉีดวัคซีนครบแล้วและเด็กที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนได้รับอนุญาตให้เข้าสิงคโปร์ได้ไม่ต้องกักตัวโดยต้องตรวจโควิดตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง
แถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรีลี เซียนหลุง เผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ระบุว่า สิงคโปร์ทะลุหมุดหมายสำคัญในความพยายามใช้ชีวิตร่วมกับโควิด-19 การผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางจะ “เชื่อมต่อสิงคโปร์กับโลกได้อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมภาคธุรกิจได้มาก โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว และจะช่วยสิงคโปร์ทวงคืนตำแหน่งศูนย์กลางธุรกิจและการบิน”
ทั้งนี้ เฉพาะนักเดินทางจากประเทศที่อยู่ในบัญชี “ต้องควบคุม” เท่านั้นที่จะเจอข้อจำกัดเข้าประเทศ แต่ปัจจุบันยังไม่มีประเทศใดถูกขึ้นบัญชี
นอกจากนี้สิงคโปร์ยังผ่อนคลายข้อจำกัดอื่นๆ ได้แก่ ไม่บังคับสวมหน้ากากเมื่ออยู่นอกบ้านอีกต่อไป ประชาชนรวมตัวกันได้กลุ่มละ 10 คน จากเดิมรวมได้แค่ 5 คน
ตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาด สิงคโปร์ที่มีประชากร 5.5 ล้านคนคุมจำนวนการติดเชื้อให้ต่ำได้โดยการปิดประเทศและล็อกดาวน์เข้มงวด ตั้งแต่ปีก่อนสิงคโปร์เจอการระบาดใหญ่ ทั้งๆ ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงสุดประเทศหนึ่งของโลก ทางการจึงเปลี่ยนมาใช้นโยบายใช้ชีวิตร่วมกับโควิด
การระบาดของโควิดฉุดรั้งเศรษฐกิจสิงคโปร์เข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรงที่สุดในปี 2563 ตอนที่ศูนย์กลางการค้าโลกแห่งนี้ต้องปิดประเทศนักท่องเที่ยวต่างชาติเหลือแค่ 2.7 ล้านคนจากกว่า 19 ล้านคนในปี 2562
แนวทางของสิงคโปร์ตรงข้ามกับศูนย์กลางการเงินคู่แข่งอย่างฮ่องกง ที่นักเดินทางยังต้องถูกกักตัวยาวนานในโรงแรม ส่วนประเทศอื่นๆ ในเอเชียแปซิฟิกเมื่อเร็วๆ นี้เพิ่งประกาศผ่อนคลายข้อจำกัดคุมโควิด เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 24 มีนาคม 2565