ททท. คาดหยุดยาวสงกรานต์ คนแห่เที่ยว 3.34 ล้านคน-ครั้ง ดันเงินสะพัด 1.1 หมื่นลบ.
เมื่อวันที่ 5 เมษายน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดยาว 5 วันของเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 ระหว่างวันที่ 13-17 เมษายน 2565 ประเทศไทยยังเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 รัฐบาลจึงยังคงมาตรการเว้นระยะห่างระหว่างกัน โดยให้สามารถจัดงานได้ แต่เน้นเป็นเรื่องประเพณี อาทิ รดน้ำขอพรผู้ใหญ่ สรงน้ำพระ การแสดงทางวัฒนธรรม ภายใต้มาตรการโควิด ฟรี เซตติ้ง และมีการกำกับอย่างเคร่งครัด
ขณะที่ขอให้งดการสาดน้ำ ประแป้ง และปาร์ตี้โฟม เพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อ แต่รัฐบาลไม่มีมาตรการห้ามเดินทาง ข้ามภูมิภาค บวกกับเป็นช่วงที่คนไทยเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์ เยี่ยมญาติ และถือโอกาสเดินทางท่องเที่ยวไปพร้อมกัน จึงคาดว่าจะทำให้บรรยากาศโดยภาพรวมน่าจะมีความคึกคักในหลายพื้นที่ทั้งในเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองรอง โดยคาดว่าจะมีจำนวนการเดินทางภายในประเทศ 3.34 ล้านคน-ครั้ง และใช้จ่ายสร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่ประมาณ 11,000 ล้านบาท โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 41%
ทั้งนี้ ททท.ได้จัดกิจกรรมในแนวคิดงานเทศกาลเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ ประจำปี 2565 “สงกรานต์วิถีใหม่ แต่งไทยเที่ยววัด” กรุงเทพมหานคร, Songkran Music Heritage Festival 2022 จังหวัดสงขลา และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คาดว่าจะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่ประมาณ 568,580 คน-ครั้ง และสร้างรายได้หมุนเวียน 2,110 ล้านบาท กรุงเทพฯและสงขลา มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยต่ำกว่า 30%
“บรรยากาศสงกรานต์ปี 2565 จะมีความคึกคักมากกว่าปี 2564 แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดที่พบการติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง ผนวกกับเศรษฐกิจในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว จึงเป็นเหตุผลที่นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางระยะใกล้ นิยมเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว และปรับลดค่าใช้จ่ายทั้งในการเดินทางท่องเที่ยว และการซื้อของฝาก ทำให้จำนวนและรายได้ชาวไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19
โดยคนไทยวางแผนเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์มากที่สุด อยู่ในจังหวัดใกล้เคียง 34% และเที่ยวข้ามภาค 32% และข้อมูลจากเพจท่องเที่ยว อาทิ เที่ยวทั่วไทยไปไหนดี, มาคาเลียส เพื่อนพาเที่ยว พบว่า ส่วนใหญ่คนไทยจะออกเที่ยวพักผ่อนช่วงสงกรานต์ และมีการจองที่พักในจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม อาทิ พัทยา (ชลบุรี) โคราช (นครราชสีมา) เกาะช้าง (ตราด) เชียงใหม่ ดังนั้น ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้น่าจะช่วยหนุนให้การท่องเที่ยวในประเทศยังคงเติบโตได้” นายยุทธศักดิ์ กล่าว
นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า อัตราการเข้าพักแบ่งเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 55% จำนวนนักท่องเที่ยว 754,380 คน-ครั้ง และมีรายได้ 1,300 ล้านบาท ภาคกลางมีอัตราการเข้าพัก 53% จำนวนนักท่องเที่ยว 735,166 คน-ครั้ง และมีรายได้ 1,470 ล้านบาท ภาคตะวันออกมีอัตราการเข้าพัก 41% จำนวนนักท่องเที่ยว 560,980 คน-ครั้ง และมีรายได้ 2,300 ล้านบาท ภาคใต้อัตราการเข้าพัก 39% จำนวนนักท่องเที่ยว 445,399 คน-ครั้ง และมีรายได้ 2,780 ล้านบาท ภาคเหนืออัตราการเข้าพัก 37% จำนวนนักท่องเที่ยว 385,468 คน-ครั้ง และมีรายได้ 1,350 ล้านบาท และกรุงเทพมหานคร มีอัตราการเข้าพัก 27% จำนวนนักท่องเที่ยว 458,907 คน-ครั้ง และมีรายได้ 1,800 ล้านบาท
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 5 เมษายน 2565