มาถึงจุด “จีน” ต้องทบทวนนโยบายซีโร่โควิด?
“เซี่ยงไฮ้” หนึ่งในเมืองต้นแบบที่มีความยืดหยุ่น และสามารถควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้มีประสิทธิภาพที่สุดในจีน แต่ขณะนี้ตกอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ หลังระบาดสายพันธุ์โอมิครอนครั้งใหญ่ในประชาชน 26 ล้านคน
ดร.เฉิน กัง นักวิจัยอาวุโสและผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันเอเชียตะวันออกที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ กล่าวว่า เซี่ยงไฮ้ศูนย์กลางทางการเงิน ขณะนี้ประชาชนแบ่งเป็นสองส่วนคือ ส่วนแรกทำงานที่บ้าน และส่วนสอง เข้ารับการตรวจโควิด หลังจากเร็วๆนี้ เซี่ยงไฮ้ระบาดโควิด-19 ที่เลวร้ายที่สุดในจีน นับตั้งแต่ต้นปี 2563
ดูเหมือนว่า จีนจะเข้มงวดนโยบายซีโร่โควิดเพิ่มขึ้นสองเท่า แม้ว่าบุคลากรด้านสาธารณสุขและประชาชน เริ่มเหนื่อยล้ากับกระบวนการตรวจหาเชื้อ และกักตัวที่ “ไม่มีวันสิ้นสุด” ขณะเดียวกัน จีนก็มีความขัดแย้งกับประเทศต่างๆ ทั่วโลกอย่างมาก ในเรื่องการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19
เมื่อปีที่แล้ว จีนเริ่มใช้นโยบายลุยกำจัดโควิดเป็นศูนย์ (dynamic zero-COVID) โดยการแบ่งพื้นที่ และปิดล็อกเพื่อปูพรมตรวจหาเชื้อทีละคน
เซี่ยงไฮ้ มีความแตกต่างจากเมืองที่เข้มงวดล็อกดาวน์ ตรงที่มาตรการควบคุมโควิด-19 ที่มีความยืดหยุ่นจะช่วยรักษาสมดุลระหว่างการควบคุมโรคกับการช่วยให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพราะในความเป็นจริง หลายมณฑลไม่อาจรักษาจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นศูนย์ได้ นับตั้งแต่ปี 2563 -2564
ขณะเดียวกัน จีนประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลกกำลังเผชิญกระแสแรงต้านทั้งด้านการเมือง และปัญหาห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก แล้วจะดีกว่าหรือไม่ ถ้ารัฐบาลปักกิ่งลองพิจารณาการจัดลำดับความสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ
ครั้งหนึ่ง เซี่ยงไฮ้ได้รับการยกย่องจากกระทรวงสาธารณสุขจีน ที่มีแนวทางควบคุมโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพเป็นที่รู้จักของ "เซี่ยงไฮ้โมเดล" ได้รับอนุญาตให้การดำเนินเศรษฐกิจเป็นปกติ ควบคู่กับการควบคุมไวรัส ทั้งการตรวจหาเชื้อแต่เนิ่นๆ ติดตามเส้นทางผู้ติดเชื้อและปิดล็อกชุมชนเป้าหมาย
ปัดตก “เซี่ยงไฮ้โมเดล” พิชิตโควิด
จาง เหวินหง นักระบาดวิทยาของเซี่ยงไฮ้และผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงที่สุดในจีน เป็นผู้สนับสนุนแนวทางปฏิบัติที่ยืดหยุ่นและใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพื่อแก้ปัญหาไวรัสในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ที่ผ่านมา กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ การหายตัวไปของเขา หลังจากเซี่ยงไฮ้ประกาศมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดล่าสุด บ่งชี้ว่าแนวทางที่นายจางสนับสนุนได้ถูกยกเลิกโดยผู้กำหนดนโยบาย และกำลังแทนที่ด้วยแนวทาง “ต่อสู้กับไวรัสโดยไม่คำนึงถึงต้นทุน” ที่จะสูญเสียไประหว่างทาง
ขณะที่รัฐบาลกลางไม่ลังเลใจจะประกาศล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ทั้งเมือง หากพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่แห่งนี้เพิ่ม โดยทางการเซี่ยงไฮ้เริ่มปิดเมืองทางฝั่งตะวันตกแล้ว เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ขณะที่ขยายพื้นที่ปิดเมืองในเขตตะวันออกบางส่วนในวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา
ต้นทุนทาง ศก.-สังคม ระหว่างล็อกดาวน์ค้นหาไวรัส
แม้ว่าจะกลายเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องทางการเมือง ถ้าจะตั้งคำถามถึงนโยบายปลอดโควิดของรัฐบาลจีน แต่ต้นทุนทางเศรษฐกิจและสังคมของการล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้และมณฑลอื่นๆ อาจเป็นเรื่องที่ทนไม่ได้ แต่ก็ไม่มีสิทธิพูด
เมื่อดูกระแสในโซเชียลมีเดียจะเห็นว่า ความโกรธเคืองต่อมาตรการล็อกดาวน์กำลังมีเพิ่มขึ้น และความไม่พอใจของประชาชนกำลังถึงจุดเดือด ทั้งการเข้าถึงระบบรักษาพยาบาล ไปจนถึงบริการจัดส่งอาหารที่ล้าช้า
บางคนบ่นผ่านโซเชียลว่า สภาพร่างกายย่ำแย่กว่าเดิมหลังอยู่ศูนย์กักตัวโควิด-19 พร้อมตั้งคำถามว่าเหตุใดผู้ตรวจพบว่าผลบวกต้องไปศูนย์ฯ แม้ว่าจะไม่มีอาการก็ตาม ขณะนี้ประชาชนอื่นๆ ก็สุดแสนจะทนกับนโยบายแยกลูกติดโควิดจากพ่อแม่
ถ้ามองไปรอบๆขณะนี้ ประเทศต่างๆ เริ่มทยอยผ่อนคลายข้อจำกัดโควิด-19 และหันมาใช้นโยบาย “การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโควิด” เพื่อเผชิญหน้ากับสายพันธุ์โอมิครอน และสายพันธุ์ย่อย BA.2
แม้แนวทาง “การอยู่ร่วมกับโควิด-19” ยังคงเป็นข้อห้ามทางการเมืองในประเทศจีน แต่เชื่อว่า จะดีกว่านี้ ถ้าทางการจีนจะวางแผนกลยุทธ์ให้ประชาชนเรียนรู้ปรับตัวให้เข้ากับวิถีปกติใหม่ด้วยตัวเอง ด้วยมาตรการที่ยืดหยุ่นและมีมิติความเป็นมนุษย์มากขึ้น เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจของประชาชนในระยะยาว
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 8 เมษายน 2565