เกียวโดนิวส์ รายงานว่า ผลสำรวจของกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นเผยแพร่เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมาพบว่า ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงที่เข้าร่วมการทำสำรวจความคิดเห็นในเกือบครึ่ง เลือก “จีน” เป็นหุ้นส่วนที่สำคัญในอนาคตของภูมิภาค แซงหน้าญี่ปุ่นขึ้นเป็นเป็นอันดับ 1 เป็นครั้งแรก

 

ผลสำรวจพบว่ากลุ่มตัวอย่าง 48 เปอร์เซ็นต์จาก 10 ชาติในอาเซียนเลือกจีนให้เป็นหุ้นส่วนที่สำคัญที่สุด ไม่เปลี่ยนแปลงจากการสำรวจครั้งล่าสุดในปี 2019 ตามมาด้วย ญี่ปุ่น ที่ตกลงไปอยู่ในอันดับ 2 ที่สัดส่วน 43 เปอร์เซ็นต์ลดจากเดิม 8 เปอร์เซ็นต์ และสหรัฐอเมริกาที่ได้ไป 41 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้น 4 เปอร์เซ็นต์

 

ผลสำรวจดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกที่จีนก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในการสำรวจซึ่งจัดทำโดยกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นที่เริ่มทำการสำรวจในรูปแบบนี้เป็นครั้งแรกในปีงบประมาณ 2015

 

กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นระบุว่าผลสำรวจสะท้อนสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งขึ้นในอาเซียนผ่านนโยบาย “การทูตวัคซีน” ในการส่งวัคซีนโควิด-19 ให้กับประเทศที่กำลังพัฒนา

แบบสำรวจในหัวข้อที่ถามว่า ประเทศใดที่เชื่อว่าจะเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญในเวลานี้ก็ยังคงตอบว่าเป็น จีน ด้วยสัดส่วน 56 เปอร์เซ็นต์ ลดลง 3 เปอร์เซ็นต์แต่ก็ยังคงอยู่ในอันดับ 1 ขณะที่อันดับ 2 เป็นญี่ปุ่นด้วยสัดส่วน 50 เปอร์เซ็นต์

 

ทั้งนี้การสำรวจดังกล่าวดำเนินการโดยกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นร่วมกับบริษัทวิจัยทางการตลาดอย่าง Ipsos ทำแบบสำรวจออนไลน์และแบบพบหน้ากันจริงๆ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมตอบจำนวน 2,700 คน จากทุกชาติสมาชิกอาเซียน ยกเว้นเมียนมาที่กำลังประสบปัญหาความขัดแย้งในประเทศ โดยสัดส่วนอายุอยู่ระหว่าง 18-59 ปี

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 26 พฤษภาคม 2565