"จุรินทร์" เตรียมนำคณะนักธุรกิจ 17 จังหวัดเหนือโรดโชว์ "ลาว" ดันเปิดด่านเพิ่มค้าชายแดน
วันที่ 5 มิถุนายน 2565 - 16:39 น. ที่โรงแรมดิ อิมพีเรียล โฮเทล จังหวัดพิษณุโลก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ภาคเหนือ พร้อมกับผู้บริหารกระทรวงและภาคเอกชน ว่า จากนโยบายเชิงรุกและเชิงลึกที่มอบให้กระทรวงพาณิชย์ในรูปแบบ กรอ.พาณิชย์ กลายเป็นเวทีในการหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ ส่วนราชการอื่นและภาคเอกชน ได้ดำเนินการมาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ด้วยนโยบายเชิงรุกและเชิงลึก ทำให้ กรอ.พาณิชย์ แตกลูกเพื่อแก้ปัญหาเชิงรุกและเชิงลึกให้มากขึ้นเป็น กรอ.พาณิชย์ภาค โดยมีการประชุมไปแล้วที่ภาคใต้ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เป็นการประชุม กรอ.พาณิชย์ ภาคเหนือ ซึ่งที่ประชุมได้มีการหารือได้ข้อสรุป 4 ประเด็นสำคัญ
1.เรื่องการค้าชายแดน
2.เรื่องความร่วมมือทางการค้าระหว่างประเทศกับประเทศเพื่อนบ้าน 3.เรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยว และ
4.เรื่องการผลักดันให้ภาคเหนือตอนล่างเป็นระเบียงเศรษฐกิจพิเศษด้านชีวภาพ ( bio economy)
สำหรับ 4 ประเด็น ได้แก่
(1)เรื่องการค้าชายแดน :
ที่ประชุมเห็นร่วมกันเร่งรัดเปิดด่านระหว่างชายแดนไทย-เมียนมาและ สปป.ลาวเพิ่มเติม โดยระหว่างไทย-ลาว มี 5 ด่านที่เอกชนและไทยมีมติเร่งรัด ประกอบด้วย 1)ด่านบ้านสวนดอก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย 2)ด่านบ้านหาดบ้าน ตำบลริมโขง จ.เชียงราย 3)ท่าเรือผาถ่าน อ.เชียงของ 4)ด่านบ้านแจมป๋อง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย และ 5)ด่านบ้านห้วยลึก อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย
ซึ่งฝั่งไทยมีความพร้อมแล้วและรอการพิจารณาของฝั่ง สปป.ลาว โดยที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศและทูตพาณิชย์ไทยประจำเวียงจันทน์เร่งรัดหารือกับทางการลาว ขอความร่วมมือเปิดด่านการค้าทั้ง 5 ด่านโดยเร็วที่สุด ส่วนด่านไทยกับเมียนมามี 7 จุด ส่วนใหญ่อยู่ฝั่งตรงข้ามท่าขี้เหล็ก ประกอบด้วยด้านจังหวัดเชียงราย 6 ด่าน 1.)ด่านสะพานข้ามแม่สายแห่งที่ 1 เมืองท่าขี้เหล็ก 2)ด่านบ้านสายลมจอย อ.แม่สาย จ.เชียงราย 3)ด่านบ้านเกาะทราย อ.แม่สาย จ.เชียงราย 4)ด่านบ้านปางห้า อ.แม่สาย 5)ด่านท่าดินดำ อ.แม่สาย 6)ด่านบ้านสบรวก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งฝั่งไทยมีความพร้อมที่จะเปิดด่านแล้ว และด่านที่ 7 ที่จังหวัดตาก ด่านสะพานแม่สอด 1 ตรงข้ามเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งการพิจารณาจากฝั่งเมียนมาได้มอบให้ทูตพาณิชย์ประจำเมียนมาและกระทรวงการต่างประเทศเร่งรัดให้เปิดด่านนี้โดยเร็วที่สุดต่อไป
(2)เรื่องการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกับประเทศเพื่อนบ้าน :
โดยเฉพาะฝั่งลาวซึ่งภาคเอกชนในจังหวัดภาคเหนือหลายจังหวัดประสงค์ให้กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้นำสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าผ่านช่องทางด่านบ้านฮวก จังหวัดพะเยา โดยขอให้มีการจัด โรดโชว์ การประชุมร่วมระหว่างผู้ส่งออกไทยกับผู้นำเข้าลาว ที่แขวงไชยบุรีซึ่งห่างจากชายแดนประมาณ 17 กิโลเมตร เพื่อหารือร่วมกันระหว่างภาคเอกชนไทยกับเอกชนของลาว จะช่วยทำให้มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้น ตนมอบหมายให้หอการค้าภาคเหนือหาข้อสรุปภาคเอกชนไทยที่ประสงค์เจรจาทางค้ากับฝั่งลาวและจะนำมาพบกับทูตพาณิชย์ไทยประจำเวียงจันทน์ที่หารายชื่อผู้นำเข้าจาก สปป.ลาว จัดจับคู่ธุรกิจให้เกิดขึ้นที่แขวงไชยบุรีโดยเร็วที่สุด คาดว่าจะทำให้มูลค่าการค้าไทย-ลาวเพิ่มเติม
(3)เรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวภาคเหนือ :
ภาคเอกชนเสนอให้ภาครัฐ หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดภาคเหนือมากขึ้น รวมทั้งทำตลาดพัฒนาหรือเปิดตลาดบางรูปแบบ เช่น ถนนคนเดินหรือตลาดต้องชม ตลาดแนวใหม่ที่ได้รับความนิยม เช่น ที่เชียงใหม่ จัดตลาดเกษียณมาร์เก็ต ซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มอบหมายให้ทีมเซลส์แมนจังหวัดภาคเหนือดูความเหมาะสมที่จะเข้าไปสนับสนุน
(4)เอกชนและภาคเหนือต้องการผลักดันให้จังหวัดภาคเหนือตอนล่างเป็นระเบียงเศรษฐกิจด้าน bio economy หรือเศรษฐกิจชีวภาพ ซึ่งตนจะรายงานความเห็นของที่ประชุมให้สภาพัฒน์ได้รับทราบเพื่อเป็นต้นเรื่องดำเนินการตามกระบวนการต่อไป แล้วจากนี้จะไปจัด กรอ.พาณิชย์ภาคอีสานที่ จังหวัดอุบลราชธานี และ กรอ.พาณิชย์ภาคกลางที่จังหวัดระยองต่อไป
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 5 มิถุนายน 2565