ชัชชาติ ชนหมัด สนั่น หอการค้าไทยชงตั้ง กรอ. กรุงเทพ วางกลยุทธ์อนาคต
ชัชชาติ ผู้ว่าฯ กทม. หารือกับหอการค้าฯ ร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ พร้อมเสนอจัดตั้ง กรอ. (กทม.) พร้อมดึงคนรุ่นใหม่ช่วยวางกลยุทธ์อนาคตของกรุงเทพ
วันที่ 17 มิถุนายน 2565 นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลัง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้นำคณะผู้บริหาร กทม. เข้าพบกับคณะกรรมการหอการค้าไทย และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (YEC : Young Entrepreneur Chamber of Commerce) เพื่อหารือแนวทางการขับเคลื่อน กทม.ในด้านต่าง ๆ ร่วมกัน โดยได้มีการนำเสนอภาพรวมการดำเนินงานขององค์กรให้ได้รับทราบ ว่าหอการค้าไทยมีเครือข่ายกว่า 1 แสนราย ประกอบด้วยหอการค้าจังหวัด สมาคมการค้า หอการค้าต่างประเทศ และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
วิสัยทัศน์และเป้าหมายองค์กร 1 เพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการไทย 2 ลดความเหลื่อมล้ำ โดยมุ่งเน้นในเรื่อง การค้าการลงทุน, เกษตรและอาหาร, ท่องเที่ยวและบริการ มีการจัดตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ เพื่อขับเคลื่อนภาพรวมเศรษฐกิจ ตามนโยบาย Connect the Dots ในการเชื่อมโยงการทำงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน
สำหรับการหารือร่วมกัน หอการค้าไทย ได้นำเสนอประเด็นที่จะผลักดัน 6 ประเด็น ดังนี้
(1)การจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐ และเอกชน ของกรุงเทพมหานคร (กรอ. กทม.) เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขัน และลดความเหลื่อมล้ำ และร่วมวางแผนยุทธศาสตร์ของ กทม.ร่วมกัน อาทิ เช่น การผลักดันเรื่อง e-Government มีความสำคัญมาก โดยสามารถช่วยลดเรื่องระยะเวลาการติดต่อราชการของภาคประชาชน และภาคธุรกิจแล้ว จึงอยากให้ กทม. นำร่อง ในบางเรื่องที่สามารถทาให้เกิดขึ้นได้ก่อน
เช่น การติดต่อขอเอกสารต่าง ๆ ในสำนักงานเขต หรือหน่วยงานในสังกัด กทม. เป็นต้น การทำกรุงเทพให้เป็นเมืองน่าอยู่ Smart City และเหมาะกับการเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจตามแนว Trade & Travel รวมถึง การส่งเสริมเอกลักษณ์ไทย ด้วยแนวคิด “ไทยเท่” ซึ่งจะช่วยให้เกิดการยกระดับคุณภาพ สินค้า และบริการต่าง ๆ ให้มีมูลค่าสูงขึ้น
(2)การสร้าง Ecosystem ที่เหมาะกับ การสร้างและบ่มเพาะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ โดยได้มีการนำเสนอการสร้างผู้ประกอบการของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ ได้มีการยกตัวอย่างของหอการค้าฯ ที่มีการสนับสนุนให้ ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (YEC) กรุงเทพฯ ในการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมของหอการค้าฯ โดยได้มีข้อเสนอพัฒนาเมืองกรุงเทพฯ ในมิติต่าง ๆ อาทิ เช่น การพัฒนา Street Food เป็นต้น
(3)การเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพงาน APEC 2022 ช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ โดย หลายกิจกรรมที่หอการค้าฯ ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลในนามภาคเอกชนในการมีส่วนร่วมจัดงานโดยเฉพาะงาน APEC CEO Summit ที่วางแผนจะจัดขึ้นที่ไอคอนสยาม จึงขอให้ทาง กทม. ช่วยเร่งการก่อสร้างและปรับปรุงถนนแถวนั้น รวมถึงเข้ามามีส่วนร่วมหรือสนับสนุนกิจกรรมเนื่องจากเป็นงานระดับชาติที่มีผู้นำจากทั่วโลกเดินทางมายังประเทศไทย ซึ่งพื้นที่การจัดงานทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ กทม.
(4)โครงการอบรมข้าราชการครูในสังกัดกรุงเทพมหานครเพื่อการพัฒนานักเรียนสู่การเป็นพลเมืองโลก (To become active global citizens) โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างพลเมืองไทยให้กลายเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ และพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดกรุงเทพมหานคร ให้มีความองค์ความรู้ และความเข้าใจในการสร้างสรรค์พลเมืองโลก ผ่านกระบวนการคิด วิเคราะห์ และการเรียนรู้ผ่านประเด็นทางสังคม รวมถึงมีการเสริมเรื่องการสอนภาษาจีนให้โรงเรียนของสังกัดกทม 400 กว่า โรงเรียนทั้งระดับประถม มัธยม และอาชีวะด้วย ซึ่งการสร้างคนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
(5)ผลักดันให้เกิดการทบทวนราคากลางในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เนื่องจากปัจจุบันราคากลาง ไม่เท่ากับราคาตลาด ทำให้กระทบต่อหลายโครงการที่ดำเนินการอยู่ หรือกำลังอยู่ระหว่างสรรหาผู้รับเหมา ซึ่งราคาที่ต่างกันอาจทำให้เกิดกรณีผู้รับเหมาบางรายทิ้งงานในหลายโครงการ รวมถึงภาคธุรกิจแบกรับต้นทุนที่เพิ่มสูงมากในช่วงที่ผ่าน ดังนั้น จึงเสนอให้ท่านผู้ว่าฯหารือกับกรมบัญชีกลาง ช่วยผลักดันประเด็นดังกล่าว เพื่อให้สะท้อนต้นทุนความเป็นจริงของภาคธุรกิจ
(6)หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง ที่เรียกว่า หลักสูตร Top Executive Program on China Business Insights and Network หรือเทพเซียน (TEPCIAN) เป็น หลักสูตรสำหรับผู้บริหารระดับสูงทั้งชาวไทยและชาวจีนที่ต้องการทำการค้า การลงทุน การท่องเทียว ระหว่าง 2 ประเทศ และถือเป็นหลักสูตรแรกของไทยที่เน้นให้ผู้บริหารที่เข้าร่วมอบรมของจีน ได้รับทราบถึงแนวทางในการค้า การลงทุน และการประสานงานกับภาครัฐของประเทศไทย
ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการทำธุรกิจระหว่าง 2 ประเทศด้วยโดยเฉพาะการท่องเที่ยวจากการที่ก่อน Covid มีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาประเทศไทยกว่า 11 ล้านคน การรู้จักและเข้าถึงคนจีนมากขึ้นก็จะสามารถช่วยให้เราเข้าใจกัน โดยท่านผู้ว่าฯมีสนใจและจะส่งทางปลัดของกรุงเทพฯ เข้าร่วมอบรมหลักสูตรนี้ด้วย
อย่างไรก็ดี หอการค้าไทย ขอขอบคุณผู้ว่า กทม. และคณะผู้บริหารฯ ที่ได้มาพบปะหารือกับคณะกรรมการหอการค้าฯ ในครั้งนี้ โดยประเด็นนำเสนอด้านต่าง ๆ ของหอการค้าฯ ขอให้ทาง กทม. ได้รับไว้พิจารณา ทั้งนี้ เชื่อว่า การทำงานแบบ “Connect the Dots” ร่วมกันแบบนี้ จะช่วยแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด และสามารถวางแผนออกแบบยุทธศาสตร์ของกรุงเทพฯ ให้น่าอยู่ได้ร่วมกัน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า แนวทางที่หอการค้าไทยนำเสนอสอดคล้องกับแนวทางของ กทม. ในหลายเรื่อง เช่น การสร้าง e-Government การทำ One stop service เรื่อง Ease of doing Business การสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ฯลฯ โดยแนวทางของ กทม.นั้นกำหนดไว้ 3 เรื่องคือ
(1) การพัฒนาคุณภาพชีวิต
(2) การสร้าง Productivity รวมทั้งเรื่อง Ease of doing business และ
(3) สร้างโอกาสให้ประชาชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ทั้งนี้ หัวใจของการทำงานคือต้องฟังเอกชนเยอะ ๆ โดยต้องการให้เอกชนเข้ามาร่วมกำหนดยุทธศาสตร์เมือง ซึ่งเห็นด้วยกับการตั้ง กรอ.กทม. ซึ่งจะมีหลาย ๆ หน่วยงานเข้ามาร่วมกันทำงาน คาดว่าจะตั้งได้ภายใน 2 สัปดาห์ นอกจากนั้น ต้องดึงคนเก่งเข้ามาช่วยจึงจะสามารถสร้างเมืองน่าอยู่ได้
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 17 มิถุนายน 2565