สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดี(30 มิ.ย.)ที่ผ่านมา คณะกรรมการของธนาคารโลก(เวิลด์แบงก์) อนุมัติการจัดตั้งกองทุนเพื่อการลงทุนในการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการต่อสู้รับมือกับโรคระบาดใหญ่ โดยกองทุนนี้จะสนับสนุนการป้องกัน การเตรียมพร้อมและการตอบสนอง(พีพีอาร์) โดยมุ่งเน้นไปที่ประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง

 

“ความเสียหายทำลายล้างมนุษย์ เศรษฐกิจและสังคมของโรคโควิด-19 ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการประสานความร่วมมือกันเพื่อสร้างระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็งขึ้นและการระดมทรัพยากรเพิ่มเติม” คณะกรรมการธนาคารโลกระบุ และว่า กองทุนซึ่งตั้งเป้าจะเปิดขึ้นในปลายปีนี้ ได้รับการพัฒนาภายใต้การนำของสหรัฐอเมริกา อิตาลี และ อินโดนีเซีย ในฐานะส่วนหนึ่งของการเป็นประธานกลุ่มจี 20 และได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากกลุ่มจี 20 ด้วย กองทุนนี้จะถูกนำไปใช้ในหลายด้าน รวมถึงการเฝ้าระวังโรค โดยยังมีภาระผูกพันที่ประกาศสนับสนุนไปแล้วมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

นายเดวิด มัลพาสส์ ประธานธนาคารโลก กล่าวว่า ธนาคารโลกเป็นผู้ให้การสนับสนุนทางการเงินรายใหญ่ที่สุดสำหรับพีพีอาร์ โดยมีการดำเนินการในประเทศกำลังพัฒนามากกว่า 100 ประเทศ เพื่อเสริมสร้างระบบสาธารณสุขของประเทศเหล่านี้ให้เข้มแข็ง

 

ธนาคารโลกระบุ กองทุนนี้ที่เรียกว่า กองทุนสื่อกลางทางการเงิน (เอฟไอเอฟ) จะจัดหาเงินทุนเพื่อเติมเต็มการทำงานของสถาบันที่มีอยู่ในการสนับสนุนประเทศและภูมิภาคที่มีรายได้ต่ำและปานกลางเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการระบาดใหญ่ครั้งต่อไป

 

ด้านนายเท็ดรอส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนในโครงการและจะจัดหาความเชี่ยวชาญทางเทคนิคให้

 

ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ชาวอเมริกันมากกว่า 1 ล้านคนและผู้คนหลายคนทั่วโลกที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการสนับสนุนการลงทุนด้านการเตรียมพร้อมรับมือกับโรคระบาดใหญ่ ซึ่งเมื่อพูดถึงการเตรียมตัวสำหรับการระบาดใหญ่ครั้งต่อไป ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการอยู่เฉยนั้นมีมากกว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ซึ่งการลงทุนในการเตรียมพร้อมตอนนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องและเป็นสิ่งที่ควรทำ

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 1 กรกฏาคม 2565