แกะรอยต่างแดน : เมืองนิอุม อภิมหาโครงการ เมืองแห่งอนาคตของซาอุฯ
เป็นวิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่ ของมกุฎราชกุมาร มูฮัมหมัด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย ที่เคยนำเสนอไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ.2017 เกี่ยวกับแผนการพัฒนาประเทศ และบริการสาธารณะ โดยมี “เมืองนิอุม” เป็นศูนย์กลางการพัฒนานี้
นิอุม เป็นภาษาอาหรับ แปลว่า “อนาคต” ในโครงการอภิมหาเมืองแห่งนี้ ประกอบไปด้วยเขตต่างๆมากมาย
หนึ่งในนั้นคือ “เดอะไลน์” ที่วาดไว้ว่า จะมีตึกระฟ้าสองตึก ที่ทอดยาวคู่ขนานกันไปบนทะเลสาบและเทือกเขา เป็นระยะทางยาวกว่า 170 กิโลเมตร เชื่อมจากตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุฯ ไปจนถึงทะเลแดง
เมืองนี้จะเป็นเมืองที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาดร้อยเปอร์เซ็นต์ มีบริการแท็กซี่ที่บินได้ มีคนรับใช้เป็นหุ่นยนต์ รวมไปถึงเรื่องของสถาปัตยกรรมและเศรษฐกิจ ที่ทำให้เกิดคำถามถึงความเป็นไปได้ของเมืองนี้ว่า จะเกิดขึ้นได้จริงหรือ
เมื่อตอนปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าชายมูฮัมหมัด ได้ฉายภาพของเมืองนิอุมอีกครั้ง คราวนี้ ยิ่งมีความยิ่งใหญ่อลังการเข้าไปอีก ด้วยการประกาศว่า เมืองนิอุม เป็นเหมือนดินแดนในอุดมคติที่ปลอดการใช้รถ
และจะเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดบนโลกใบนี้
แรกเริ่มเดิมที เจ้าชายมูฮัมหมัด เคยตั้งเป้าไว้ว่า เมืองนิอุม จะมีประชากรมากถึง 1 ล้านคน แต่ตัวเลขล่าสุด เจ้าชายได้ปรับเพิ่มว่า ตัวเลขของประชากรในเมืองนี้ จะมีมากถึง 1.2 ล้านคน ภายในปี 2030 และจะเพิ่มขึ้นเป็น 9 ล้านคน ภายในปี 2045
โดยเจ้าชาย ตรัสว่า เป้าหมายหลักในการสร้าง “นิอุม” คือการเพิ่มความสามารถให้ซาอุฯ เพิ่มพลเรือนและเพิ่มประชากรในซาอุฯ
ซึ่งเจ้าชายมองว่า การสร้างคนในประเทศ ถือเป็นเรื่องสำคัญในการทำให้ซาอุฯ ประเทศส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก กลายเป็นประเทศมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โดยเจ้าชายมูฮัมหมัด ได้ตั้งเป้าไว้ว่าภายในปี 2030 ซาอุฯ จะต้องมีประชากร 50 ล้านคน จากปัจจุบันที่มีอยู่ราว 34 ล้านคน
และภายในปี 2040 จะต้องมีประชากร 100 ล้านคน
ตอนนี้ สิ่งที่ทำได้ คือเดินหน้าโครงการอภิมหาโปรเจ็กต์ “นิอุม” ให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน ด้วยเงินที่จะลงทุนระยะแรก คือ 3.19 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 11.3 ล้านล้านบาท และคาดว่า จะเสร็จสิ้นโครงการในระยะแรก ภายในปี ค.ศ.2030
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 17 สิงหาคม 2565