"CRC" โตทะลุเป้ากวาดรายได้ 236,245 ล้านบาท
เซ็นทรัล รีเทล กวาดรายได้ปี 2565 กว่า 236,245 ล้านบาทเติบโต 21% กำไรสุทธิ 7,605 ล้านบาท โต 2,648%หลังเดินเกม "CRC Retailligence" รุกตลาดรีเทล ด้วยกลยุทธ์3C พร้อม Spin-off “MEB” เข้าตลาดหลักทรัพย์ mai
เซ็นทรัล รีเทล เดินหน้ายุทธศาสตร์ CRC Retailligence สร้างการเติบโตก้าวกระโดด ผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2565 รับทรัพย์รวม 65,147 ล้านบาท EBITDA 9,497 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 3,417 ล้านบาท หนุนผลประกอบการทั้งปี 2565 เติบโตเกินเป้ากวาดรายได้รวม 236,245 ล้านบาท EBITDA 30,049 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 7,605 ล้านบาท
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา เซ็นทรัล รีเทล สามารถสร้างการเติบโตทั้งกลุ่มแฟชั่นภายใต้ “New Omni Fashion” ด้วย Total Solution ครบวงจร ส่วนกลุ่มฮาร์ดไลน์ ไทวัสดุขึ้นแท่นเป็นเบอร์ 2 ด้วยจำนวนสาขารวม 70 สาขา ใน 42 จังหวัดทั่วไทย ส่วนท็อปส์ สามารถครองเบอร์ 1 ฟู้ดรีเทลเมืองไทยด้วยคอนเซปต์ใหม่ “Every Day Discovery” พร้อมกับการขยายสาขาอีก 15 สาขา รวมถึงศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ จนขึ้นเป็นเบอร์ 1 ศูนย์การค้า Lifestyle and Experiential Community ที่มีสาขาครอบคลุมจังหวัดมากที่สุดในไทย
นอกจากนี้เซ็นทรัล รีเทล ยังสร้างฐานการเงินที่แข็งแกร่ง บนกลยุทธ์ 3C คือ Cost บริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด, Capex เน้นการลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุดใน Strategic Business และ Cash Flow ขยายขีดความสามารถในการจัดการเงินทุนหมุนเวียนให้มีความคล่องตัว และเพิ่มกระแสเงินสดให้มากขึ้น ทำให้ธุรกิจมีความ Fit & Firm และสามารถสร้างผลประกอบการกลับมาเติบโตได้อย่างรวดเร็วเกินคาด
ทั้งนี้สัดส่วนยอดขายมาจากกลุ่มธุรกิจ ฟู้ด 40% กลุ่มฮาร์ดไลน์ 34% และกลุ่มแฟชั่น 26% และแบ่งตามประเทศเป็น ประเทศไทย 69% เวียดนาม 24% และอิตาลี 7% นอกจากนี้ยอดขายบนแพลตฟอร์มออมนิแชแนลยังเติบโตขึ้นถึง 15% จากปีก่อน และมีสัดส่วนยอดขายจากแพลตฟอร์มนี้เป็น 18% ของยอดขายทั้งหมด และมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังได้ Spin-off บมจ.เมพ คอร์ปอเรชั่น (MEB) ซึ่งเป็นบริษัทฯ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ด้วยมูลค่า Market Cap ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 อยู่ที่ 12,075 ล้านบาท ขึ้นแท่นหุ้น Market cap สูงสุดอันดับ 2 ของตลาด mai ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ (Service)
ขณะที่ธุรกิจต่างประเทศ สามารถครองตำแหน่งผู้นำค้าปลีกต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม และขึ้นแท่นอันดับ 1 ไฮเปอร์มาร์เก็ต และอันดับ 2ศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ ด้วยจำนวนธุรกิจครอบคลุมใน 40 จังหวัด จาก 63 จังหวัดทั่วประเทศเวียดนาม ควบคู่ไปกับการสร้างความแข็งแกร่งในกลุ่มฟู้ด ด้วย 3 โมเดลคือ GO! ไฮเปอร์มาร์เก็ต, go! ซูเปอร์มาร์เก็ต และ Tops market เพื่อรองรับความต้องการของชาวเวียดนาม
"หลังจากนี้ เราจะขยายธุรกิจในเวียดนามต่อเนื่องเพราะเวียดนามเป็น Key Market ของเซ็นทรัล รีเทล ที่มีโอกาสขยายตัวได้อีกมหาศาล และมีความพร้อมทางธุรกิจในหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจที่โตเร็ว ประชากรส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาว และมีกำลังซื้อสูง รวมถึงการขยายตัวของเมืองและธุรกิจโมเดิร์นเทรดที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเม็ดเงินลงทุน 50,000 ล้านบาทใน 5 ปี
ขณะเดียวกันยังผนึกความร่วมมือทั้ง Ecosystem ของเซ็นทรัล รีเทล เพื่อเป็นผู้นำทั้งในกลุ่มฟู้ด น็อนฟู้ด และพร็อพเพอร์ตี้ ในประเทศเวียดนาม โดยจะเปิดศูนย์การค้า GO! เพิ่ม 5-7 สาขาในปีหน้าไปพร้อมๆกับขยายอาณาจักรเซ็นทรัล รีเทลให้ครอบคลุมทั้ง 57 จังหวัดทั่วประเทศเวียดนามเพื่อบรรลุยอดขาย 150,000 ล้านบาทในประเทศเวียดนามในอีก 5 ปีข้างหน้า
เรามั่นใจว่าเซ็นทรัล รีเทลจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปัจจัยบวกหลายด้านในภาคธุรกิจค้าปลีกและบริการ โดยเฉพาะแรงเสริมจากการเปิดประเทศและจำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดินทางเพิ่มมากขึ้น ทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี ถือเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล ซึ่งจะเอื้อประโยชน์โดยตรงต่อธุรกิจในเครือเซ็นทรัล รีเทลของเรา”
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ