"กสิกรไทย" แนะร้านค้าใช้ "QR" ดันยอด รับท่องเที่ยวบูม คาดเงินสะพัด 1.44 ล้าน
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม นางสาวศิริพร วงศ์ตรีภพ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารดันร้านค้ารับชำระเงินแบบไร้สัมผัสตามพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นิยมสแกน QR ชำระเงิน โดยในปีนี้คาดว่านักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยกว่า 28 ล้านคน สร้างเม็ดเงินสู่ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องราว1.44 ล้านล้านบาท เพิ่มโอกาสสร้างรายได้ให้กับร้านค้า
โดยปัจจุบันธนาคารมีบริการรองรับสำหรับร้านค้าให้สามารถรับสแกน QR ทั้งจากโมบายแบงกิ้งของนักท่องเที่ยว 5 ประเทศ คือ มาเลเชีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และกัมพูชา รวมถึงรับชำระด้วย UnionPay, Alipay และWeChat Pay จากนักท่องเที่ยวชาวจีน เพื่อให้ทุกการรับ–จ่ายเงินเป็นไปอย่างสะดวกสบายและปลอดภัยมากที่สุด
นางสาวศิริพร กล่าวว่า ปัจจุบันพฤติกรรมการใช้จ่ายพบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการใช้จ่ายแบบไร้สัมผัสเป็นอย่างดี เพราะมีความสะดวกสบายกว่าการใช้เงินสดจนกลายเป็นนิวนอลมอลหลังยุคโควิด สอดคล้องกับข้อมูลของธนาคารที่พบว่าปี 2565 จำนวนรายการธุรกรรมผ่าน QR Payment เติบโตกว่า 238% จากปี 2564 สะท้อนให้เห็นว่าสังคมไร้เงินสดกลายเป็นเรื่องปกติของคนไทย
และได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศในเอเชียที่มีความคุ้นเคยกับการสแกน QR ชำระเงิน ดังนั้น หากร้านค้าให้บริการรับชำระด้วย QR ก็จะเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติซึ่งสามารถเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากกว่า
ดังนั้น เพื่อสนับสนุนให้ร้านค้ามีความพร้อมในการรองรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัสแก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาไทย ธนาคารจึงพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ส่งเสริมให้การใช้จ่ายแบบไร้สัมผัสเป็นไปอย่างสะดวกสบายและปลอดภัยมากที่สุด ได้แก่
รองรับการสแกน QR จากโมบายแบงกิ้งของนักท่องเที่ยว ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และกัมพูชา(Cross-Border QR Payment) ผ่านแอปพลิเคชัน K SHOP และเครื่องรูดบัตรกสิกรไทย (EDC) ซึ่งเริ่มให้บริการในปี 2565 ที่ผ่านมาและได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี เนื่องจากสะดวก ปลอดภัย อัตราแลกเปลี่ยนดีและไม่มีค่าธรรมเนียม ทางด้านร้านค้าที่รับชำระก็ไม่เสียค่าธรรมเนียมในการให้บริการ และคาดการณ์ว่าปี 2566 นี้ปริมาณการทำรายการจะเติบโตขึ้นถึง 2 เท่า โดยธนาคารมีแผนจะขยายการรับชำระเงินผ่านโมบายแบงกิ้งของนักท่องเที่ยวประเทศอื่นๆ ต่อไปในอนาคต
การรับชำระด้วย Union Pay, Alipay และ WeChat Pay ผ่านแอปพลิเคชัน K SHOP และเครื่องรูดบัตรกสิกรไทย(EDC) จากร้านค้ากว่า 300,000 ร้านค้า เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติหลักที่เดินทางมาเที่ยวไทย โดยคาดว่าในปีนี้น่าจะมีรายการรับชำระผ่าน UnionPay, Alipay และ WeChat Pay เติบโตกว่า 5.5 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2565
บริการอื่นๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ยังต้องการความมั่นใจในการพกเงินสดติดตัว หรือนักท่องเที่ยวประเทศอื่นๆ ในโซนยุโรปหรืออเมริกา ธนาคารมีร้านค้าที่รับชำระเงินผ่านบัตรเครดิต/เดบิตรองรับทั่วประเทศ รวมถึงตู้ถอนเงินสดกว่า 10,310 จุด และบูธแลกเปลี่ยนเงินตรา (FX Booth, FX Machine) เปิดให้บริการในสนามบินสุวรรณภูมิดอนเมือง ภูเก็ต และสาขารวม 800 จุด พร้อมรถแลกเงินเคลื่อนที่ และขยายบูธแลกเงินในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ห้างสรรพสินค้าเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มเติม
หลังยุคโควิคประเทศไทยก็ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ประกอบกับเศรษฐกิจไทยมีการพึ่งพารายได้จากธุรกิจท่องเที่ยวค่อนข้างสูง จึงคาดว่าการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักได้เหมือนช่วงก่อนโควิด ดังนั้นร้านค้าควรเตรียมความพร้อมเพื่อคว้าโอกาสจากนักท่องเที่ยวที่จะหลั่งไหลเข้ามาโดยร้านค้าที่สนใจสมัครใช้บริการรับชำระเงินของธนาคารสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.kasikornbank.com/collection หรือ K-BIZ Contact Center 02-8888822
ทั้งนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่วางแผนเดินทางไปต่างประเทศ ธนาคารมีทางเลือกในการชำระเงินเพื่อช่วยให้การท่องเที่ยวสะดวกสบาย เช่น การใช้ K PLUS สแกนจ่าย ณ ร้านค้าเครือข่าย UnionPay ที่มีกว่า 40 ล้านร้านค้าในกว่า 40 ประเทศ/ภูมิภาคทั่วโลก เช่น จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา
รวมถึงบัตรที่ใช้จ่ายได้ทั่วโลกโดยไม่ชาร์จ 2.5% อย่างเช่นบัตรเดบิต Journey ที่ใช้จ่ายได้ทุกสกุลเงิน ใช้บริการห้องรับรอง Miracle Lounge ฟรี และบัตร YouTrip ที่สามารถแลกเงินล่วงหน้าได้ 10 สกุลเงิน ใช้จ่ายได้กว่า 150 สกุลเงิน เพื่อรองรับการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาวที่จะถึง
ที่มา มติชน