2 เดือนแรกปี 66 ต่างชาติลงทุนไทยเพิ่ม 305% จีนเบียดขึ้นแชมป์ กว่าหมื่นล้าน
แค่ 2 เดือนแรกปี 66 ต่างชาติลงทุนไทยเพิ่ม 305% จีนเบียดทุกชาติ ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งกว่าหมื่นล้าน
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว รายงานว่า ช่วง 2 เดือนแรก 2566 คณะกรรมการฯได้อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 รวม 113 ราย เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 37 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 76 ราย มีเงินลงทุนรวม 26,756 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 1,651 คน
โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 25 ราย ร้อยละ 22 เงินลงทุน 8,545 ล้านบาท สิงคโปร์ 19 ราย ร้อยละ 17 เงินลงทุน 3,090 ล้านบาท สหรัฐฯ 13 ราย ร้อยละ 12 เงินลงทุน 1,314 ล้านบาท ขณะที่จีนแม้ลงทุน 10 ราย หรือร้อยละ 9 แต่มีเงินลงทุนมากถึง 10,987 ล้านบาท ขณะที่สมาพันธรัฐสวิส 6 ราย ร้อยละ 5 เงินลงทุน 966 ล้านบาท รวมถึงการลงทุนจากทุกชาติจะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบ การสร้างแบบจำลองแบบ 3 มิติ และการทำงานของแดมเปอร์เฉพาะทางบนคอมพิวเตอร์ องค์ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในโครงการรถไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับการเจาะลอด และองค์ความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ความผิดพลาดในกระบวนการผลิตสินค้าประเภทนาฬิกาอัจฉริยะเป็นต้น
เมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 พบว่า การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย เพิ่มขึ้น 51 ราย คิดเป็นร้อยละ 82 ที่ 2 เดือนปีก่อนได้อนุญาต 62 ราย มูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้น 20,154 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 305 จากปีก่อน 2 เดือนแรกลงทุนรวม 6,602 ล้านบาท และจ้างงานคนไทยเพิ่มขึ้น 412 ราย คิดเป็นร้อยละ 33 จากช่วงเดียวกันปีก่อนจ้างงาน 1,239 คน โดยจำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนสูงสุด คือ ญี่ปุ่น เช่นเดียวกับปี 2565
ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นโยบายการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อาทิ บริการออกแบบ จัดซื้อ จัดหา ติดตั้ง ปรับปรุง พัฒนา ทดลองระบบ เชื่อมระบบ และการเปิดใช้งาน ตลอดจนการบริหารจัดการ สำหรับโครงการรถไฟฟ้า
บริการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียมภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานในอ่าวไทย บริการก่อสร้าง รวมทั้ง ติดตั้งและทดสอบเกี่ยวกับการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติและสถานีควบคุมก๊าซธรรมชาติและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สำหรับโครงการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก บริการพัฒนา EMBEDDED SOFTWARE ซึ่งเป็นการพัฒนาและติดตั้งซอฟต์แวร์ฝังตัวสำหรับเครื่อง INTERLOCK บริการเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งให้บริการแก่กิจการของวิสาหกิจในเครือในต่างประเทศ
นายสินิตย์ กล่าวว่า สำหรับการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 รวม 21 ราย คิดเป็นร้อยละ 19 ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด โดยมีมูลค่าการลงทุนกว่า 2,078 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8 ของเงินลงทุนทั้งหมด เป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น 7 ราย ลงทุน 1,352 ล้านบาท จีน 5 ราย ลงทุน 529 ล้านบาท ไต้หวัน 3 ราย ลงทุน 37 ล้านบาท และประเทศอื่นๆ อีก 6 ราย ลงทุน 160 ล้านบาท โดยธุรกิจที่ลงทุน อาทิ บริการทางวิศวกรรมด้านการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจวิศวกรรมยานยนต์ บริการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนโลหะ และชิ้นส่วนพลาสติก และ การค้าระหว่างประเทศ โดยเป็นการจัดซื้อสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นต้น เพื่อค้าส่งในประเทศ เป็นต้น
ทั้งนี้ เฉพาะเดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจในประเทศไทย 61 ราย เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 15 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 46 ราย เม็ดเงินลงทุน 21,627 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 1,353 คน ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และจีน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการเจาะลอด องค์ความรู้เกี่ยวกับระบบงานศูนย์เครือข่ายโรมมิ่ง และองค์ความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ความผิดพลาดในกระบวนการผลิตสินค้าประเภทนาฬิกาอัจฉริยะ เป็นต้น
สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่ บริการก่อสร้าง รวมทั้งติดตั้งและทดสอบเกี่ยวกับการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติและสถานีควบคุมก๊าซธรรมชาติและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สำหรับโครงการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก บริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การออกแบบ วางแผน และให้คำปรึกษาเชิงเทคนิคเกี่ยวกับระบบโทรคมนาคม เป็นต้น
บริการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ โดยเป็นการบริการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม การทำกิจการโรงแรม ตามที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน
ที่มา : มติชน