พาณิชย์ ขนผลไทยไทยบุกยูนานถกผู้นำเข้าจีน
"ปลัดพาณิชย์" ถกผู้นำเข้า นักธุรกิจในยูนาน วางแผนทำตลาดผลไม้ไทย เซ็น MOU ซื้อขายล่วงหน้ารองรับผลผลิตที่กำลังออกสู่ตลาด พร้อมถกทูตพาณิชย์ในจีน ลาว และเวียดนาม สั่งเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด
นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้เยือนมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีนในการหารือผู้บริหารระดับสูงภาครัฐและเอกชน ตลอดจนผู้นำเข้า ผู้ประกอบการ ผู้กระจายสินค้าและบริการรายสำคัญของจีน และสมาคมนักธุรกิจไทยในจีนตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการค้าการลงทุน ปัญหาและอุปสรรค และร่วมกันวางแผนการขยายตลาดการส่งออกสินค้า บริการ และการลงทุนของไทยในตลาดจีน ตลอดจนหาแนวทางความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต โดยเฉพาะสินค้าผลไม้
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้หารือร่วมกับสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ (สพต.) ปักกิ่ง สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ภูมิภาคจีน 7 แห่ง สคต. เวียงจันทน์ และสคต. ฮานอย เพื่อติดตามภาวะการค้าสินค้าผลไม้ของไทย และได้มอบนโบายให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้ผลไม้ไทยกำลังออกสู่ตลาด จะต้องคอยอำนวยความสะดวก และหากมีปัญหาติดขัด ต้องเข้าไปแก้ไขทันที หากจำเป็นต้องแก้ไขในระดับนโยบาย ก็ให้รายงานเข้าส่วนกลางอย่างเร่งด่วน เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาอุปสรรคได้ทันการณ์ และไม่กระทบต่อการส่งออกผลไม้ของไทย
ขณะเดียวกัน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้จัดให้มีการลงนาม MOU ซื้อขายผลไม้ไทย ระหว่างสมาคมนักธุรกิจไทยในจีนตะวันตกเฉียงใต้ กับบริษัท Yunnan Dimiao Electronic Commerce Co., Ltd. และบริษัท มาสเตอร์ คิง ฟรุตส์ จำกัด โดยตกลงซื้อทุเรียนรวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ภายใน 5 ปี และเน้นขาย Online Marketing เป็นหลัก
โดยในปี 2565 การค้าไทย-จีน มีมูลค่า 105,404.28 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการส่งออก มูลค่า 34,389.91 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นำเข้า มูลค่า 71,014.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง, ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง, ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง, เม็ดพลาสติก และยางพารา สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ, เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน, เคมีภัณฑ์, เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ, และเครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ
และเฉพาะการค้าไทย-ยูนนาน มีมูลค่า 2,349 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการส่งออก มูลค่า 1,136.98 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นำเข้า มูลค่า1,212.02 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น ผลไม้ (ทุเรียน, มังคุด, ลำไย, ส้มโอ, สับปะรด, กล้วย และมะพร้าว), ไก่แช่แข็งและส่วนประกอบ, เคมีภัณฑ์เบ็ดเตล็ด, สินแร่ ตระกรันและเถ้า และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น ผลไม้ (องุ่น, แอปเปิ้ล, ลูกแพร์, ลูกพลับ, ลินจี่, มะม่วง, สตอเบอร์รี) เป็นต้น
ที่มา: ฐานเศรษฐกิจ