TDRI แนะจับตาโอเปกพลัส หวั่นลากศก.โลกถดถอย
TDRI ชี้หากโอเปกพลัสลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบนานดันราคาน้ำมันโลกทะยาน หนุนราคาสินค้าโลกพุ่งสูงเสี่ยงทำให้เศรษฐกิจยุโรป-สหรัฐเกิดภาวะถดถอย ฉุดส่งออกไทยอ่วมเพิ่ม ด้านสภาหอการค้าฯ เชื่อเป็นสถานการณ์ระยะสั้น กระทบไม่มาก แต่ต้องจับตาต้นทุนการผลิตอุตสาหกรรม
ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวถึงกรณี กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน และพันธมิตร หรือ โอเปกพลัส
ประกาศปรับลดกพำลังการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มอีกราว 1.16 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามปกติการรวมตัวกันเพื่อลดกำลังการผลิตมักจะเกิดขึ้นได้ไม่ค่อยนาน เพราะเมื่อลดกำลังการผลิตจะทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น จึงเป็นแรงจูงใจให้บางประเทศในกลุ่มที่รวมตัวกันจะเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อขายในราคาที่สูงขึ้น
กรณีที่รวมตัวกันได้ไม่นาน และส่งผลกระทบทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นในระยะสั้นแบบกรณีทั่วๆไป และความร่วมมือเกิดขึ้นแบบยาวนาน ทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก (เช่น ราคาสูงมากกว่า 100 เหรียญต่อบาร์เรล) และยาวนาน ซึ่งกรณีหลังจะส่งผลกระทบในวงกว้าง เพราะจะทให้โลกเกิดปัญหาเงินเฟ้อจากทางด้านต้นทุนการผลิต (ราคาน้ำมันดันราคาสินค้าโลก) และสุ่มเสี่ยงทำให้ยุโรปและสหรัฐฯเกิดเศรษฐกิจถดถอย
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เบื้องต้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะ ทางกลุ่ม OPEC+ ต้องการรักษาระดับราคาน้ำมันให้ balance ระหว่าง อุปสงค์และ อุปทาน ตอนนี้เป็นช่วงที่ อุปสงค์ต่ำลงเพราะเป็น ฤดู spring เป็นช่วงที่ใช้น้ำมันมันน้อยอยู่แล้ว ทำให้ในกลุ่มที่ต้องการรักษาระดับราคาน้ำมันไม่ให้ต่ำลงไป มีการลดกำลังผลิตลง
“หลังจากประกาศมีราคาน้ำมันปรับตัวเด้งขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งเชื่อว่าเป็นระยะสั้นเดี๋ยวก็จะปรับตัวอยู่ในกรอบ 80 -85 เหรียญต่อบาร์เรล ช่วงนี้ เชื่อว่าตอนนี้ไม่กระทบมาก ไม่ต้องตื่นตระหนกมากแต่ควรจะตระหนักว่า มีประเด็นนี้เป็นปัจจัยของต้นทุนการผลิตของอุตสาหกรรมต่างๆ”