"พานาโซนิค" ย้ายฐานจากญี่ปุ่น-จีน มาไทย ผลิตอุปกรณ์อัตโนมัติ

บีโอไอเผยข่าวดี "พานาโซนิค" ย้ายฐานผลิตอุปกรณ์อัตโนมัติ จากจีน-ญี่ปุ่น มาไทย ย้ำอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวต่อเนื่อง เผยยอดขอส่งเสริมลงทุนกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 5 เดือนแรกปีนี้ โตกว่าปีก่อน 7 เท่า
 
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า กรณีมีข่าวว่าบริษัท พานาโซนิค อีโคโลจี ซีสเต็มส์ จังหวัดสมุทรปราการ ได้ปิดตัวลงในเดือนมิ.ย. 2566 บีโอไอได้รับแจ้งจากผู้บริหารของบริษัทฯ ว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่น 
 
โดยจะควบรวมโรงงานที่มีผลิตภัณฑ์ในลักษณะเดียวกันรวมไว้ที่โรงงานขนาดใหญ่ และปิดโรงงานขนาดเล็ก ทำให้จะมีการปิดโรงงานขนาดเล็กในไทย แต่ขณะเดียวกันก็จะมีการลงทุนเพิ่มเติมในอีกหลายผลิตภัณฑ์ด้วย
 
ปัจจุบัน กลุ่มพานาโซนิค ประเทศไทย มีทั้งสิ้น 11 โรงงาน เป็นโรงงานขนาดใหญ่ 4 แห่ง คิดเป็นสัดส่วนยอดขาย 80% ของทั้งกลุ่ม และมีโรงงานขนาดเล็ก 7 แห่ง คิดเป็นสัดส่วนยอดขาย 20% ของทั้งกลุ่ม นับตั้งแต่ปี 2563 โรงงานขนาดเล็กในไทย3 แห่ง ทยอยปิดตัวลง เพื่อย้ายไปรวมกับโรงงานที่มีขนาดใหญ่กว่าในผลิตภัณฑ์เดียวกัน 
 
สำหรับโรงงานที่ได้ปิดตัวลงในเดือนที่ผ่านมาเป็นโรงงานขนาดเล็กแห่งที่ 4 ผลิตพัดลมระบายอากาศ ภายใต้ชื่อบริษัท พานาโซนิค อีโคโลจี ซีสเต็มส์ ส่วนโรงงานขนาดเล็กที่เหลืออีก 3 แห่ง เป็นโรงงานสำคัญที่ยังผลิตสินค้าอย่างต่อเนื่อง
 
สำหรับโรงงานขนาดใหญ่ที่อยู่ในประเทศไทยทั้ง 4 แห่ง ซึ่งผลิตระบบ Infotainment ในยานยนต์   ถ่านไฟฉาย และอุปกรณ์อุตสาหกรรม ยังเดินหน้าการผลิตและขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยมีการปิดโรงงานในต่างประเทศเพื่อมาใช้กำลังการผลิตในประเทศไทยด้วย 
 
 
 
ล่าสุด บริษัท พานาโซนิค อินดัสเตรียล ดิไวซ์ ซังค์ ประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วน Electronic Measuring Instrument และอุปกรณ์อัตโนมัติ เช่น Programmable Logic Controller (PLC) ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนและทักษะแรงงานสูง ได้ย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย ทำให้มีการใช้วัตถุดิบและจ้างแรงงานในประเทศไทยจำนวนมาก 
 
 
 
นอกจากนี้ ได้มีการขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ Automotive Switch ที่จังหวัดขอนแก่น รวมทั้งในประเทศไทยมีสำนักงานภูมิภาคในธุรกิจผลิต Switch, LED, Lighting  และมีศูนย์วิจัยและพัฒนาของบริษัทในส่วนผลิตภัณฑ์ Infotainment ในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ประเทศไทยด้วย
 
ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายสำคัญที่ไทยต้องการดึงลงทุนเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย และจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ทำให้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์มีการย้ายฐานผลิตเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ซัพพลายเชน 
 
ซึ่งหลังจากบีโอไอจัดกิจกรรมเชิงรุกเพื่อดึงการลงทุนตามนโยบายส่งเสริมการลงทุนใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา โดยได้เดินทางไปโรดโชว์ที่ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา จีน เกาหลีใต้ และยุโรป มีนักลงทุนให้ความสนใจและยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไออย่างต่อเนื่อง
 
"ปัญหาสงครามการค้าและความขัดแย้งระหว่างประเทศทำให้มีผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตของอุตสาหกรรามชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทข้ามชาติจึงมีการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยกลุ่มพานาโซนิค ได้เลือกไทยให้เป็นฐานการผลิตของผลิตภัณฑ์กลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีและทักษะในการผลิตสูง เช่น PLC อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ หรือการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อประเทศไทย"
 
โดยเฉพาะความพร้อมของซัพพลายเชน และความต่อเนื่องของการดำเนินธุรกิจ รวมถึงศักยภาพในการเติบโตของกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงที่จะเป็นฐานสำคัญของอุตสาหกรรมแห่งอนาคตอื่น ๆ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้าและดิจิทัล
 
สำหรับช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค. – พ.ค. 2566) บีโอไอให้การส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์รวม 79 โครงการ มูลค่า 143,860 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 7 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 
 
นอกจากโครงการลงทุนของพานาโซนิคแล้ว ยังมีโครงการลงทุนในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่น่าสนใจ เช่น กิจการผลิตชิ้นส่วนสำหรับระบบโทรคมนาคมแบบใยแก้วนำแสง และระบบชิพควบคุมระบบกำลัง (Power Chip) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า จากประเทศจีนที่ตัดสินใจมาลงทุนในไทย
 
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
 

@Admin TVBC

สนใจสมัครสมาชิกหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายเลขานุการฯ
โทร: 02-018-6888 ต่อ 4340
Email: tvbc.secretariat@gmail.com

:)