เกาหลีใต้ จ่อปักหมุดไทย ลุยตั้งฐานผลิต "อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า"
เกาหลีใต้ ถก ไทย เตรียมเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ หวังลดภาษีนำเข้า-ส่งออกสินค้า เล็งขยายธุรกิจปักหมุดตั้งฐานผลิต "อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทย"
นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายอัน ด็อก-อึน รัฐมนตรีการค้า กระทรวงการค้า พลังงาน และอุตสาหกรรม สาธารณรัฐเกาหลี ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลีว่า เกาหลีใต้แสดงความสนใจอย่างมุ่งมั่นที่จะเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (EPA) ไทย - เกาหลีใต้ ให้สำเร็จ เพราะทั้งสองประเทศยังไม่มีการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างกัน มีเพียงการจัดทำความตกลงการค้าในระดับภูมิภาค ได้แก่ ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน - เกาหลีใต้ (AKFTA) และความตกลง RCEP ซึ่งเป็นภาพกว้างเท่านั้น
ปัจจุบันรัฐมนตรีการค้าของเกาหลีใต้ได้พบหารือกับรมช.พาณิชย์ของไทย ระหว่างการประชุมเอเปคที่สหรัฐอเมริกา และเดินทางกลับมายังเกาหลีใต้เพื่อพูดคุยกับตนต่อ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจเป็นอย่างมาก ซึ่งหากการจัดทำ EPA สำเร็จ จะเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยลดภาษีการนำเข้าส่งออกสินค้า ลดอุปสรรคการค้า ส่งเสริมซัพพลายเชนและการเคลื่อนย้ายสินค้าให้มีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ไทยและเกาหลีใต้มีศักยภาพ
นอกจากนี้บริษัท Hyundai และ Kia กำลังอยู่ระหว่างการขยายธุรกิจและตั้งฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เกาหลีใต้ยังได้เสนอให้ใช้ประโยชน์จากการเจรจาจัดทำ EPA เพื่อหารือและเตรียมความพร้อมของภาคเอกชนควบคู่กันไปด้วย ซึ่งตนในฐานะผู้แทนการค้าไทยได้แสดงความพร้อมที่จะร่วมกับเกาหลีใต้ยกร่างขอบเขตการเจรจา (TOR) เพื่อพัฒนาไปสู่การจัดทำ EPA โดยเร็วต่อไป
นางนลินี กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันยังได้เสนอให้มีการรื้อฟื้นกลไกการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า หรือ JTC ไทย - เกาหลีใต้ ซึ่งห่างหายไปกว่า 20 ปี โดยล่าสุดได้ประชุมกันครั้งสุดท้าย หรือครั้งที่ 12 เมื่อปี 2545 ซึ่งกลไกนี้จะเป็นกลไกเฉพาะด้านการค้าการลงทุนที่จะช่วยขยายมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างไทยและเกาหลีใต้ เป็นเวทีแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้า และอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกัน
ทั้งนี้หัวหน้าคณะเจรจาทั้งสองฝ่ายเป็นระดับรัฐมนตรี ฝ่ายไทยคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ส่วนฝ่ายเกาหลีใต้คือ รัฐมนตรีการค้า ทั้งนี้ ไทยแสดงความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JTC ครั้งที่ 13 ที่กรุงเทพฯ ในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งจะเป็นโอกาสปูทางไปสู่การเปิดเจรจา EPA ระหว่างกันต่อไปด้วย
ฐานเศรษฐกิจ
19 พฤศจิกายน 2566
เกาหลีใต้ จ่อปักหมุดไทย ลุยตั้งฐานผลิต “อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า”
เกาหลีใต้ ถก ไทย เตรียมเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ หวังลดภาษีนำเข้า-ส่งออกสินค้า เล็งขยายธุรกิจปักหมุดตั้งฐานผลิต “อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทย”
นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายอัน ด็อก-อึน รัฐมนตรีการค้า กระทรวงการค้า พลังงาน และอุตสาหกรรม สาธารณรัฐเกาหลี ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลีว่า เกาหลีใต้แสดงความสนใจอย่างมุ่งมั่นที่จะเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (EPA) ไทย - เกาหลีใต้ ให้สำเร็จ เพราะทั้งสองประเทศยังไม่มีการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างกัน มีเพียงการจัดทำความตกลงการค้าในระดับภูมิภาค ได้แก่ ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน - เกาหลีใต้ (AKFTA) และความตกลง RCEP ซึ่งเป็นภาพกว้างเท่านั้น
ปัจจุบันรัฐมนตรีการค้าของเกาหลีใต้ได้พบหารือกับรมช.พาณิชย์ของไทย ระหว่างการประชุมเอเปคที่สหรัฐอเมริกา และเดินทางกลับมายังเกาหลีใต้เพื่อพูดคุยกับตนต่อ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจเป็นอย่างมาก ซึ่งหากการจัดทำ EPA สำเร็จ จะเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยลดภาษีการนำเข้าส่งออกสินค้า ลดอุปสรรคการค้า ส่งเสริมซัพพลายเชนและการเคลื่อนย้ายสินค้าให้มีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ไทยและเกาหลีใต้มีศักยภาพ
นอกจากนี้บริษัท Hyundai และ Kia กำลังอยู่ระหว่างการขยายธุรกิจและตั้งฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เกาหลีใต้ยังได้เสนอให้ใช้ประโยชน์จากการเจรจาจัดทำ EPA เพื่อหารือและเตรียมความพร้อมของภาคเอกชนควบคู่กันไปด้วย ซึ่งตนในฐานะผู้แทนการค้าไทยได้แสดงความพร้อมที่จะร่วมกับเกาหลีใต้ยกร่างขอบเขตการเจรจา (TOR) เพื่อพัฒนาไปสู่การจัดทำ EPA โดยเร็วต่อไป
นางนลินี กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันยังได้เสนอให้มีการรื้อฟื้นกลไกการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า หรือ JTC ไทย - เกาหลีใต้ ซึ่งห่างหายไปกว่า 20 ปี โดยล่าสุดได้ประชุมกันครั้งสุดท้าย หรือครั้งที่ 12 เมื่อปี 2545 ซึ่งกลไกนี้จะเป็นกลไกเฉพาะด้านการค้าการลงทุนที่จะช่วยขยายมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างไทยและเกาหลีใต้ เป็นเวทีแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้า และอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกัน
ทั้งนี้หัวหน้าคณะเจรจาทั้งสองฝ่ายเป็นระดับรัฐมนตรี ฝ่ายไทยคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ส่วนฝ่ายเกาหลีใต้คือ รัฐมนตรีการค้า ทั้งนี้ ไทยแสดงความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JTC ครั้งที่ 13 ที่กรุงเทพฯ ในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งจะเป็นโอกาสปูทางไปสู่การเปิดเจรจา EPA ระหว่างกันต่อไปด้วย
"ที่ผ่านมาเกาหลีใต้ได้เข้าไปลงทุนในอาเซียน แต่พบกับปัญหาอุปสรรคในบางประเทศ เช่น ความไม่พร้อมของระบบสาธารณูปโภคและพลังงาน แม้จะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนจำนวนมากก็ตาม เพราะอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ของเกาหลีใต้จำเป็นต้องใช้พลังงานเพื่อการผลิตมาก”
นางนลินี กล่าวต่อว่า เกาหลีใต้เล็งเห็นศักยภาพของไทยที่มีความพร้อมมากกว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณากระจายการลงทุนเพื่อลดการพึ่งพาประเทศใดประเทศหนึ่งเพียงแห่งเดียว โดยตนได้เชิญชวนให้เกาหลีใต้เข้ามาลงทุน เนื่องจากไทยมีศักยภาพในทุกด้าน และยังมีสิทธิประโยชน์ทั้งภายใต้ BOI, EEC และโครงการอื่น ๆ รวมทั้งยังสามารถเป็นประตูการค้าไปสู่ตลาดอื่นทั้งเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และยุโรป
อย่างไรก็ตามไทยยังมีแรงงานที่มีศักยภาพ มีนักเรียนนักศึกษาที่สนใจเรียนภาษาเกาหลีมากถึง 40,000 คนต่อปี ถือเป็นอันดับ 1 ของประเทศนอกเกาหลี ที่มีผู้สนใจศึกษาภาษาเกาหลี ซึ่งตนเชื่อว่าการหารือครั้งนี้เป็นนิมิตหมายที่ดีในการสร้างความร่วมมือกัน และสอดคล้องกับช่วงเวลาของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย - เกาหลีใต้ ครบรอบ 65 ปี ในปีนี้อีกด้วย
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ