พรรคคอมมิวนิสต์จีนประชุมแผนยุทธศาสตร์ชาติ 5 ปี เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ประกาศก้าวสู่การพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี ยกระดับเป็น “สังคมนิยมโมเดิร์น”

 

สำนักข่าวเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้มีการประชุมแบบปิดตั้งแต่วันที่ 26-29 ต.ค. ที่ผ่านมา ถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ 5 ปี ฉบับที่ 14 ซึ่งหลังการประชุมได้มีคำแถลงการณ์ เนื้อหาหลักย้ำถึงการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน มากกว่าการขยายตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ “วงจรคู่” (Dual Circulation) ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศให้แข็งแกร่ง ควบคู่กับการขยายการค้ากับต่างชาติ

 

โดยทางการจีนมีเป้าหมายขยายตัวเลขเศรษฐกิจ (จีดีพี ) ในสิ้นปีนี้จะเกินกว่า 100 ล้านล้านหยวน และกำหนดเป้าหมายต้องการเพิ่มจีดีพีต่อหัวให้อยู่ในระดับ “ประเทศที่พัฒนาแล้ว” ภายในปี 2035

 

นอกจากนี้ยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีถือเป็นเสาหลักของยุทธศาสตร์ชาติ โดยจีนจะยกระดับการพัฒนาและผลิตเทคโนโลยีเพื่อทำให้ประเทศสามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ ตามเป้าหมายที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ตั้งไว้

 

Wang Zhigang รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีนกล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่แผนยุทธศาตร์5ปีของจีน ได้มีกำหนดถึงการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจีนจะปิดประตูกับนานาชาติ

 

พร้อมกันนี้ได้ระบุถึงวิสัยทัศน์ของ “สี้ จิน ผิง” นายกรัฐมนตรีจีน ที่ต้องการพัฒนาประเทศให้เป็นสังคมนิยมที่เจริญรุ่งเรือง แข็งแกร่ง เสมอภาค มีวัฒนธรรมที่ก้าวหน้า และสามัคคีกัน โดยหลัก ๆ คำแถลงการณ์มีนโยบายต่างๆเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านี้

 

รวมถึงการที่จะรักษาความสัมพันธ์อันดีกับฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน

โดยสภาประชาชนแห่งจีนจะมีการอนุมัติกฎหมายใหม่ที่จะรองรับแผนการพัฒนาจีนฉบับนี้ช่วงเดือนมีนาคม 2021 และทางการจะออกแถลงนโยบายอย่างละเอียดทั้งหมดในที่ประชุมอีกครั้งในเดือนหน้า

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

วันที่ 31 ตุลาคม 2563