รอยเตอร์ - เลโก้ (Lego) บริษัทผู้ผลิตของเล่นชื่อดังจากเดนมาร์ก เผยว่า บริษัทวางแผนที่จะสร้างโรงงานแห่งใหม่ในเวียดนามเพื่อรองรับความต้องการตัวต่อพลาสติกที่สีสันสดใสที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหมู่เด็กๆ ทั่วเอเชีย

 

บริษัทระบุว่า จะลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ในโครงการนี้ ที่จะเป็นโรงงานแห่งที่ 2 ในเอเชีย หลังจากบริษัทได้เปิดโรงงานแห่งหนึ่งในจีนไปในปี 2559 ซึ่งเลโก้มีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักในภูมิภาคนี้ตั้งแต่ปี 2562

 

คาร์สเตน ราสมุสเซน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของเลโก้ กล่าวกับรอยเตอร์ว่า อุปสงค์ในตอนนี้ใกล้ที่จะมากกว่าอุปทานจากโรงงานจีนในช่วงระยะกลางถึงระยะยาว 

 

“การเติบโตในจีนและเอเชียนั้นยอดเยี่ยมมาก และเราสามารถเห็นได้ว่าเมื่อเวลาผ่านไปเราจะต้องการกำลังการผลิตที่มากขึ้น” ราสมุสเซน กล่าว โดยชี้ไปที่ชนชั้นกลางที่กำลังขยายตัวและอัตราการเกิดที่สูงในภูมิภาคนี้เมื่อเทียบกับตลาดยุโรปและอเมริกาเหนือที่เติบโตเต็มที่แล้ว

 

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นยุทธศาสตร์ 10 ปี ของเลโก้ ในการวางการผลิตใกล้กับตลาดสำคัญ เพื่อช่วยควบคุมต้นทุนและป้องกันผลกระทบจากปัจจัยภายนอก

 

“มันช่วยลดระยะเวลาการจัดส่งให้ลูกค้าของเรา และทำให้เราสามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างรวดเร็ว และแน่นอนว่าทำให้เรามีความยืดหยุ่นมากขึ้นด้วย” ราสมุสเซน กล่าว

 

เขาเสริมว่าการตัดสินใจสร้างโรงงานในเวียดนามไม่ได้เป็นผลจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกเมื่อเร็วๆ นี้

 

นอกจากนี้ โรงงานในเวียดนามจะยังเป็นโรงงานที่เป็นกลางทางคาร์บอนแห่งแรกของเลโก้ ที่บริษัทวางแผนการใช้พลังงานด้วยพลังงานแสงอาทิตย์จากแผงบนหลังคาโรงงานและจากฟาร์มใกล้เคียง โดยมีกำหนดเริ่มการผลิตในปี 2567 และจะมีการจ้างงานมากถึง 4,000 คน

 

แม้ว่าเลโก้จะยังคงผลิตตัวต่อพลาสติกที่ผลิตจากน้ำมัน แต่บริษัทได้ให้คำมั่นว่าจะแทนที่ด้วยการผลิตจากวัสดุที่ยั่งยืนภายในสิ้นทศวรรษนี้

 

นอกจากการตั้งโรงงานแห่งใหม่ ราสมุสเซนระบุว่า บริษัทยังขยายกำลังการผลิตในเม็กซิโก ฮังการี และจีน และเพิ่มเครื่องจักรที่โรงงานในเดนมาร์ก และสาธารณรัฐเช็กอีกด้วย

 

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

วันที่ 9 ธันวาคม 2564