โลกใหม่ แล้ว "อเมริกา" จะเดินไปทางใด?

โลกใหม่ หรือวิถีชีวิตใหม่ เมื่อโควิด-19 ผ่านพ้นไปจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดและเงินตราสกุลดอลลาร์ได้รับความเชื่อถือที่สุด แต่วันนี้กลับต้องบอบช้ำหนักจากวิกฤติครั้งนี้
 
วันพฤหัสที่ 11 มิถุนายน 2563 ดัชนีดาวโจนส์ตก 6.9% หรือ 1,861.82 จุด เหลือที่ดัชนี 25,128.17 รัฐบาลอเมริกันประมาณว่าจำนวนผู้ตกงานปลายปี ค.ศ.2020 จะอยู่ที่ประมาณ 9% มีผู้แจ้งการตกงาน 1.5 ล้านคนในสัปดาห์ล่าสุด ทำให้ยอดรวมคนว่างงานในอเมริกาปัจจุบันเท่ากับประมาณ 30 ล้านคน หรือ 20% ของจำนวนคนทำงานทั้งหมด เศรษฐกิจปัจจุบันจึงน่าเป็นห่วงมาก
 
นี่คือผลกระทบโดยตรงจากการระบาด COVID-19 ซึ่งยอดการติดเชื้อพุ่งขึ้นอีก (คล้ายกับเป็นรอบสองที่มาเร็วกว่าคาด เพราะเดิมนั้นประมาณว่ารอบสองจะมาในเดือนกันยายน) รวมปัจจุบันผู้ติดเชื้อประมาณ 2,000,000 คน การติดเชื้อเพิ่มภายในหนึ่งวันเกินกว่า 20,000 คน และยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นวันนี้ 834 คน ซึ่งทำให้ตัวเลขรวมเพิ่มขึ้นเป็น 112,967 คน
 
การลงทุนทั่วโลกรับผลกระทบโดยตรงจากสหรัฐอเมริกา เพราะขนาดของเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดและเงินตราสกุลดอลลาร์ได้รับความเชื่อถือที่สุด สถานการณ์ของเศรษฐกิจในอเมริการะยะนี้มีความตึงเครียดมาก และการที่รัฐบาลผลักดันให้เปิดเศรษฐกิจโดยด่วน 
 
สวนกระแสกับอันตรายของโรคระบาด ทำให้ผู้บริโภคยังไม่กล้าตัดสินใจ ธุรกิจที่พยายามเปิดขึ้นมาก็พบปัญหาสารพัด รวมทั้งยอดขาย หรือรายรับ ต่ำกว่ารายจ่าย ผู้บริโภคในอเมริกาที่ออกมาจับจ่ายสินค้าในระยะนี้ก็เป็นผู้ที่เบื่อการอยู่บ้านหรือไปที่ทำงานเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ แต่เมื่อมาถึงการตัดสินใจในการบริโภค ผู้บริโภคเหล่านี้ ยังลังเลอยู่
 
ปัญหาโควิด-19ในหลายแห่งทั่วโลกยังอยู่ในขั้นอันตราย เช่น บราซิล อินเดีย และแอฟริกา มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก และรัฐบาลประเทศเหล่านั้นยังขาดทรัพยากรและมาตรการที่จะช่วยเหลือประชาชนได้ เรื่องนี้สร้างความกดดันถึงขนาดมีข่าวลือเรื่องการจะมีการรัฐประหารในบราซิลเป็นต้น
 
การเดินทางระหว่างประเทศน่าจะเริ่มฟื้นตัวบ้าง แต่คงช้ามาก เพราะผู้บริโภคจะสงวนกิจกรรมเหล่านี้ไว้ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น บริษัทที่เกี่ยวข้อง เช่นสายการบินต่างๆ และบริษัทผลิตเครื่องบินอย่างโบอิ้ง (BOE) หรือผลิตเครื่องยนต์ เช่น GE ต้องอาศัยเงินช่วยเหลือจากภาครัฐประคับประคองตัวไปก่อน บางบริษัทต้องหาเงินด้วยการขายพันธบัตร (Delta Airlines ขายพันธบัตร 3 พันล้านเหรียญ ให้อัตราดอกเบี้ยสูงถึง 7% ต่อปี) ส่วนธุรกิจเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต่างๆ ก็มีการคาดหวังหรือการเดาเป็นส่วนใหญ่ เพราะไม่มีใครรู้ว่าผู้บริโภคจะคิดอย่างไร 
 
ข่าวของหุ้นในอเมริกาที่ตกอย่างรุนแรง วันนี้สร้างความวิตกให้กับสถาบันการลงทุนและผู้ลงทุนระดับย่อยพอสมควร แต่หากมองภาพรวมแล้วดัชนีของตลาดหุ้นอเมริกาปัจจุบันโดยสรุปก็คือต่ำกว่าจุดสูงสุดก่อนโรคระบาดเดือนกุมภาพันธ์เพียงแค่ลดลง 10% (ช่วงเดือนมีนาคมตกอย่างรุนแรงจนถึง 30%) 
 
อเมริกายังเป็นแหล่งดึงดูดการลงทุนที่สำคัญมาก ทั้งที่โครงสร้างทางเศรษฐกิจในปัจจุบันสั่นคลอน เหตุผลอาจเป็นเพราะยังไม่มีทางเลือกอื่นที่จะมาแทนอเมริกาได้แต่นี่เป็นเพียงการรักษาความเป็นผู้นำชั่วคราว เพราะโลกเปลี่ยนไปเร็ว
 
ปัจจัยของการคาดคะเนอนาคตของโลกนั้นมีอยู่สี่อย่างคือ ลักษณะของประชากร ทรัพยากรธรรมชาติ ภูมิอากาศ และเทคโนโลยี 
 
อเมริกามีความพร้อมเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ ภูมิอากาศและเทคโนโลยี แต่ปัจจุบันกำลังเผชิญสิ่งท้าทายที่ใหญ่ที่สุดคือปัญหาประชากร โดยเฉพาะเรื่องมีความเหลื่อมล้ำสูง ขาดความเสมอภาคและการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อชนกลุ่มน้อยโดยเฉพาะชาวผิวดำ(ชาวอเมริกันเชื้อสายอัฟริกา)
 
ชนวนที่ทำให้เกิดการประท้วงที่กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้และไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่าย เริ่มจากเหตุการณ์ของการใช้ความรุนแรงเกินเหตุในการฆ่านาย George Floyd ที่เมือง Minneapolis เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมาและมีการชุมนุมใหญ่ถึงขั้นมีการจลาจล ปล้นและเผาอาคารบ้านเรือนทำให้เกิดภาพอเมริกาลุกเป็นไฟ นอกเหนือจากกว่า 700 เมืองในอเมริกาแล้วยังขยายวงกว้างไปถึงหลายเมืองทั่วโลก
 
การประท้วงครั้งนี้แตกต่างกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาเพราะประชาชนอเมริกันกว่า 74% สนับสนุน และกว่า 76% เห็นด้วยว่าประเทศมีปัญหาเรื่องการเหยียดผิวและอยากให้มีการเปลี่ยนแปลง การประท้วงนั้นส่วนใหญ่สงบตามสิทธิคุ้มครองในระบอบประชาธิปไตย (ผู้ที่สวมรอยหรือเผลออารมณ์สร้างความรุนแรงได้รับการประณามและมีการดำเนินโทษทางกฏหมาย ซึ่งมีตัวอย่างหลายคดีแล้วทั้งฝ่ายประชาชนและเจ้าหน้าที่)
 
ชาวอเมริกันที่มีเชื้อสายอัฟริกา (ผิวดำ) มีประมาณ 13% ของประชากรทั้งประเทศแต่เป็นเจ้าของธุรกิจเพียงแค่ 4% ทรัพย์สินในครัวเรือนของชาวอเมริกันผิวดำ 11 ครอบครัวจึงจะเทียบได้กับชาวผิวขาวหนึ่งครอบครัว โรคระบาดครั้งนี้ผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวอเมริกันผิวดำมีจำนวนประมาณเกือบครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตทั้งหมด ทั้งที่มีประชากรสัดส่วนน้อยกว่ามาก การตกงานครั้งนี้ชาวผิวดำมีอัตราส่วนมากกว่าชาวผิวขาวถึงสามเท่า
 
การประท้วงในอเมริกาเป็นแรงบันดาลใจให้หลายประเทศถกปัญหาของความเหลื่อมล้ำและการเอาเปรียบในสังคมที่หมักหมมมานาน การใช้อำนาจรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะกับชนกลุ่มน้อยหรือผู้มีโอกาสด้อยกว่า ตัวอย่างในออสเตรเลียมีการหยิบยกเรื่องชาวพื้นเมืองกว่า 400 คนที่ตายเพราะน้ำมือของตำรวจต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีคศ.1991แต่ไม่มีใครถูกลงโทษเลย การที่ประชากรผิวดำในยุโรปเช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมันถูกรังแกโดยตำรวจ และการเอารัดเอาเปรียบในสังคมซึ่งกีดกั้นโอกาสของชนกลุ่มน้อยแทบทุกรูปแบบ มีการรื้อฟื้นเรื่องของการทำงานระบบทาสในบราซิลซึ่งยังเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ น่าจับตามองว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปในรูปใด ประเด็นใดจะได้มีการปฏิรูปก่อนที่จะลามปามกลายเป็นการปฏิวัติ
 
บริษัทใหญ่ในอเมริกาที่มีเครือข่ายนานาชาติเป็นจำนวนมากได้ออกมาแสดงบทบาทอย่างชัดเจนในการรับฟังปัญหาและความทุกข์ร้อนของพนักงานและผู้บริโภค และเริ่มมีบรรยากาศสอดคล้องกันทั่วประเทศเรื่องการรับฟังความเห็นและหาทางช่วยกันปรับปรุงแนวทางใหม่ พลังของผู้บริโภคเริ่มมีน้ำหนักมากซึ่งอาจเป็นเพราะความสะดวกในการแบ่งปันความคิดเห็นและข้อมูลต่างๆทางโซเชียลมีเดีย การเริ่มจากประเด็นของการเหยียดผิว ความไม่เสมอภาค ความบกพร่องของเจ้าหน้าที่รัฐ ต่างๆเหล่านี้ จังหวะประกอบกับการหยุดชะงักของเศรษฐกิจและความห่วงกังวลเรื่องสุขภาพทำให้เราต้องคิดว่าควรจะทำอะไรต่อไปในอนาคต เพื่อให้มีความสมบูรณ์สมดุลและยั่งยืน
 
โลกกำลังก้าวสู่ยุคใหม่อย่างแน่นอนและนี่ไม่ใช่เปลี่ยนเพียงแค่การหยุดพักชั่วคราวแล้วกลับมาเหมือนเดิม แต่วิถีชีวิตใหม่ new normal กำลังจัดสรรระบบต่างๆ รวมทั้งทัศนคติของเราทุกคนด้วย 
 
การลงทุนที่หวังเงินเป็นผลการตอบแทนเริ่มไร้ความหมายและลดความนิยมลง แต่การลงทุนในแนวใหม่ที่คำนึงถึงความยุติธรรมระหว่างมนุษยชน การรักษาความสมดุลของสิ่งแวดล้อม และการใช้เทคโนโลยีอย่างรอบคอบ กำลังได้รับพลังและแรงใจสนับสนุน จากการออกมาเรียกร้องของประชาชน  ผู้นำภาครัฐและเอกชนที่เข้าใจสัญญาณครั้งนี้ถูกต้อง จะได้รับการสดุดีและผลตอบแทนที่คุ้มค่า 
 
อนาคตของเราทุกคนฝากไว้กับความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน แบ่งปันโดยยุติธรรม คิดรอบคอบทั้งกระบวนการผลิตและการบริโภค เสียงของเราทุกคนมีน้ำหนักและมีความหมาย หากเห็นอะไรที่ต้องปรับปรุงและแก้ไข เราต้องเป็นผู้เริ่มโดยไม่ต้องรอผู้อื่น เราต้องมีความกล้าหาญในการแสดงออก โลกใหม่ วิถีชีวิตใหม่เดินหน้าด้วยความมั่นใจและมีน้ำใจ หนทางสดใส
 
 
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 16 มิถุนายน 2563

@Admin TVBC

สนใจสมัครสมาชิกหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายเลขานุการฯ
โทร: 02-018-6888 ต่อ 4340
Email: tvbc.secretariat@gmail.com

:)