อาเซียนซัมมิทครั้งที่ 37 ในปีอาเซียน 2020 ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย

การประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 37 และการประชุมต่างๆที่เกี่ยวข้องได้จัดขึ้นในวันที่ 12 พฤศจิกายน ณ กรุงฮานอย ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในหัวข้อ “ความเป็นหนึ่งเดียวและพร้อมปรับตัว” นี่เป็นการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งสุดท้ายในปีประธานอาเซียนของเวียดนาม อีกทั้งเป็นโอกาสเพื่อให้อาเซียนประเมินผลความร่วมมือทั้งภายในและนอกกลุ่มและวางแนวทางความร่วมมือในด้านต่างๆที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในระยะต่อไป
 
อาจกล่าวได้ว่า ในตลอด 53ปีที่ผ่านมา อาเซียนไม่เคยเผชิญกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่เหมือนในปัจจุบัน โดยการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อความร่วมมือแบบเก่าของอาเซียน แต่อย่างก็ดี ความมุ่งมั่นของประชาคมอาเซียนได้ช่วยเชื่อมโยงบรรดาประเทศสมชิกและสร้างพลังที่เข้มแข็งเพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพและฟันฝ่าอุปสรรคทุกประการ
 
 
จากการสานต่อกิจกรรมต่างๆตั้งแต่ต้นปีมานี้ การประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 37 จะเป็นโอกาสเพื่อให้อาเซียนยืนยันถึงความสามัคคี ความมุ่งมั่นทางการเมืองที่เข้มแข็งและความพยายามฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายต่างๆเพื่อก้าวรุดหน้าต่อไป
 
ความมั่นคง-เป็นฝ่ายรุก-พร้อมปรับตัว :
 
ผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ทำให้อาเซียนได้มีการปฏิบัติอย่างรวดเร็วและทันการณ์ มีความเชื่อมโยงและประสานนโยบายและการปฏิบัติระหว่างประเทศสมาชิก โดยได้จัดตั้งกลไกต่างๆ เช่น กองทุนอาเซียนเพื่อรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลังสำรองอุปกรณ์การแพทย์อาเซียนและกระบวนการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขตามมาตรฐานของอาเซียนและศูนย์รับมือโรคโระบาดใหม่ของอาเซียน
 
ในด้านการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน ได้มีการปฏิบัติวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนจนถึงปี 2025 ตรวจสอบการปฏิบัติกฎบัตรอาเซียน แถลงการณ์วิสัยทัศน์ฮานอยเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนปี 2025 การเชื่อมโยงและพัฒนาอนุภูมิภาคและประชาคมอาเซียนเพื่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน  อาเซียนได้ลงนามในบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติมาตรการไม่ใช้มาตรการทางภาษีต่อสินค้าที่จำเป็น ส่งเสริมการให้สัตยาบันข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในทุกด้านในภูมิภาคหรือ RCEP ที่คาดว่า จะได้รับการลงนามในการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนของอาเซียนต่อระบบการค้าพหุภาคี การเปิดเสรีด้านการค้าและการลงทุนเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูภูมิภาคหลังภาวะโควิด-19
 
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับหุ้นส่วนต่างๆในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาก็ได้รับการเสริมสร้างและขยาย โดยกลไกความร่วมมือต่างๆ เช่น อาเซียน+1 อาเซียน+3 การประชุมผู้นำเอเชียตะวันออก หรือ EAS ฟอรั่มภูมิภาคอาเซียน หรือ ARF ได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียน โดยเฉพาะมีเพิ่มอีก 3 ประเทศที่เข้าร่วมสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมืออาเซียนหรือ TAC อย่างเป็นทางการประกอบด้วยโคลอมเบีย คิวบาและเอฟริกาใต้ ซึ่งการขยายสนธิสัญญา TAC ได้แสดงให้เห็นถึงสถานะและบทบาทของอาเซียนในการขยายความร่วมมือ การส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคและโลก
 
ในปัญหาต่างๆของภูมิภาคและโลก อาเซียนได้ยืนยันอีกครั้งถึงจุดยืนและหลักการของอาเซียนเกี่ยวกับสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคและโลก สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก อาเซียนได้ยึดหลักของกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 เรียกร้องให้ปฏิบัติแถลงการณ์ว่าด้วยการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีอย่างจริงจังและสมบูรณ์และแสดงความหวังว่า อาเซียนและจีนจะจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็ว
 
 
ส่งเสริมจิตใจแห่งความเป็นหนึ่งเดียวและพร้อมปรับตัว :
 
อาจกล่าวได้ว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้สร้างอุปสรรคไม่น้อยให้แก่เวียดนามในฐานะเป็นประธานอาเซียนปี 2020 แต่อย่างไรก็ดี เวียดนามไม่เพียงแต่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพจนกลายเป็นตัวอย่างในภารกิจนี้เท่านั้น หากยังชี้นำให้อาเซียนฟันฝ่าวิกฤตบนเจตนารมณ์ “ความเป็นหนึ่งเดียว เป็นฝ่ายรุกและพร้อมรับตัว” อีกด้วย โดยอาเซียนกำลังปฏิบัติ 2 เป้าหมายพร้อมกันคือป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ควบคู่กับการปฏิบัติเป้าหมายต่างๆในการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน
 
บนเจตนารมณ์ดังกล่าว การประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 37 เป็นโอกาสให้อาเซียนประเมินผลความร่วมมือทั้งภายในและนอกกลุ่มและวางแนวทางความร่วมมือในด้านต่างๆที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในระยะต่อไป โดยจะมีการอนุมัติ รับทราบและประกาศเอกสารกว่า 80 ฉบับ ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่มีการจัดการประชุมผู้นำอาเซียน โดยเฉพาะข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในทุกด้านในภูมิภาคหรือ RCEP และข้อตกลงระเบียงการเดินทางของอาเซียน จิตใจแห่งความเป็นหนึ่งเดียวและความสามัคคีของอาเซียน การเป็นฝ่ายรุกในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่จะได้รับการผลักดันในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งทำให้การประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 37 และการประชุมต่างๆที่เกี่ยวข้องมีความหมายและสร้างนิมิตหมายของเวียดนามในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนปี 2020
 
ที่มา vovworld.vn
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2563

@Admin TVBC

สนใจสมัครสมาชิกหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายเลขานุการฯ
โทร: 02-018-6888 ต่อ 4340
Email: tvbc.secretariat@gmail.com

:)