แม้เผชิญโควิด-19 เวียดนามยังเด่น
กำลังใจของประชาชนในประเทศนี่สำคัญครับ ในช่วงที่มีวิกฤติโควิด-19 คนเวียดนามยังมีกำลังใจเข้มแข็ง ในขณะที่ ประเทศอื่นฟุบ แต่เวียดนามกลับขยับเขยื้อนประเทศไปข้างหน้าได้เป็นอย่างดี ผมอ่านจากรายงานของสำนักงานสถิติเวียดนาม พบว่าจีดีพีเวียดนาม พ.ศ.2563 ยังขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 2.91 (ในขณะ ประเทศอื่นติดลบ) พอไปดูการคาดการณ์ของธนาคารโลกที่บอกว่า พ.ศ.2564 จีดีพีเวียดนามจะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 6.8 และจะขยายตัวอยู่ที่ระดับร้อยละ 6.5
ธนาคารโลกคาดการณ์ตัวเลขการขยายตัวของเวียดนาม พ.ศ.2564 สูงกว่าที่สภาแห่งชาติเวียดนามกำหนดไว้คือร้อยละ 6 ปีนี้ รัฐบาลเวียดนาม จะขยายและสร้างความหลากหลายให้ตลาดส่งออกและนำเข้า โดยเวียดนามจะใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีที่ตนเองไปลงนามกระจายไปทั้งโลก ถ้าผมจำไม่ผิด เวียดนามมีเอฟทีเอกับประเทศต่างๆ มากกว่า 50 ประเทศ
สิ่งที่รัฐบาลเวียดนามนำมาใช้ในปีนี้คือ Economic Model หรือแบบจำลองเศรษฐกิจของประเทศ ที่ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เข้ามาช่วยให้ประชาชนเพิ่มผลผลิตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ที่น่าสนใจคือ ใน พ.ศ.2564 รัฐบาลเวียดนามจะเพิ่มประสิทธิภาพประกันสังคมให้ครอบคลุมประชากร ถึงร้อยละ 91 ซึ่งถือว่าสูงมาก
ข่าวดีของเวียดนามออกมาเป็นระยะ ขณะที่กำลังเขียน คอลัมน์อยู่นี้ รอยเตอร์รายงานข่าวว่า เวียดนามเริ่มลงมือสร้าง เฟสแรกของสนามบินนานาชาติล็องถั่ญ ซึ่งเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุด ของประเทศ มีรันเวย์ที่ยาวถึง 4 กิโลเมตร อาคารที่รับผู้โดยสารได้มากถึง 25 ล้านคนและขนส่งสินค้าน้ำหนัก 1.2 ล้านตันต่อปี รัฐบาลเวียดนามลงทุนในเฟสแรก 4,660 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อ เสร็จทุกเฟสแล้วก็จะมีมูลค่าการก่อสร้างรวม 16,000 ล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ และรองรับผู้โดยสารได้ 100 ล้านคน
จากรายงานของ Worldmeters.info ในขณะที่คนทั้งโลกติดเชื้อโควิด-19 มากถึง 87 ล้านคน ตายไปแล้ว 1.87 ล้านคน แต่เวียดนามมีคนติดเชื้อโควิด-19 เพียง 1,504 คน มีคนตาย 35 คน ก็ถือว่าสถานการณ์ด้านโควิด-19 ของเวียดนามยังดีกว่าหลายประเทศ
ผมตามข่าวจากสำนักงานสถิติของเวียดนามพบว่า พ.ศ.2563 การลงทุนโดยตรงของต่างประเทศหรือ FDI ที่ลงทุนในเวียดนามมีมูลค่ารวมถึง 28,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตีเป็นเงินไทยก็ 8.83 แสนล้านบาท โดย 14,600 ล้านดอลลาร์ ลงทุนในโครงการใหม่ 6,400 ล้านดอลลาร์ ขยายลงทุนเพิ่มเติมในโครงการปัจจุบัน และ 7,500 ล้านดอลลาร์ ใช้ควบรวมและซื้อกิจการ
ที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนครั้งใหม่ในเวียดนามที่มีมากกว่า ร้อยละ 49 เป็นการลงทุนด้านการผลิต ร้อยละ 35 เป็นการลงทุนและผลิตด้านการจำหน่ายไฟฟ้าปีที่แล้ว มีประเทศที่กระโจนเข้าไปลงทุนในเวียดนามมากถึง 79 ประเทศ เด่นสุดคือสิงคโปร์ (6,200 ล้านดอลลาร์) ตามด้วยจีน ไต้หวัน ฮ่องกง และเกาหลีใต้
เวียดนามประสบความสำเร็จในการดึงการลงทุนจากต่างประเทศ มาก พ.ศ.2562 เวียดนามมีโครงการ FDI มากถึง 38,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ซึ่งเมื่อเทียบกับไทย ต้องยอมรับ ว่าเวียดนามกระโจนไปได้ไกลมากกว่าเราเยอะ
ทุกครั้งที่เขียนเกี่ยวกับความสำเร็จของเวียดนามจะต้องมีคนค้าน บอกว่าตนเองและคณะเคยเดินทางไปเยือนเวียดนาม ถนนหนทางเวียดนามยังกระจอกงอกง่อย โรงแรมยังใช้ไม่ได้ แล้วก็งัดเรื่องลบ ของเวียดนามออกมากระจายขยายข่าวจนเต็มโซเชียล คนที่ผมรู้จักบางท่านเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว เคยมีคนเวียดนามมารับจ้างทำงาน ในโรงงานก็ยังมองเวียดนามแบบเดิมๆ
คนจำนวนไม่น้อยยังมองกลุ่มประเทศ CLMV กัมพูชา สปป. ลาว เมียนมา และเวียดนามเหมือนเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว ซึ่งในสมัยก่อนตอนนั้น ประเทศเหล่านี้เพิ่งพ้นสถานะสงคราม แล้วก็ประมาทว่าตนเองนั้นดีที่สุด มั่นคงที่สุด แต่อาจจะลืมไปว่าทุกประเทศต่างก็มีพัฒนาการ และรัฐบาลก็หมุนเวียนเปลี่ยนไป
ได้รัฐบาลเก่ง ประเทศก็พุ่งกระฉูดส่งตูดจัมโบ้
ได้รัฐบาลไม่เก่ง ประเทศก็ย่อยยับอับปางถอยหลังลงคลอง
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 8 มกราคม 2564