อินเดีย-เวียดนาม แหล่งผลิตใหม่ลดความเสี่ยงแอ๊ปเปิ้ล
แอ๊ปเปิ้ล อิงค์ กำลังผลิตไอโฟน ไอแพด แมค และผลิตภัณฑ์อื่นๆนอกจีน เป็นการตอกย้ำว่า บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกันแห่งนี้กำลังเร่งกระจายแหล่งผลิตให้มีความหลากหลายแม้ยังคงมีความหวังว่าสถานการณ์ตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะดีขึ้น
เว็บไซต์นิกเคอิ รายงานอ้างแหล่งข่าววงในว่า การผลิตไอแพดจะเริ่มประมาณกลางปีนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่แอ๊ปเปิ้ลซึ่งถือเป็นผู้ผลิตแท็บเล็ตรายใหญ่สุดของโลกจะผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากนอกประเทศจีน
แหล่งข่าววงในยังระบุว่า แอ๊ปเปิ้ล ซึ่งมีฐานดำเนินงานในแคลิฟอร์เนีย ยังเตรียมผลิตไอโฟนในอินเดีย ที่ถือเป็นฐานการผลิตใหญ่สุดอันดับสอง ด้วยการเริ่มผลิตไอโฟน12รุ่นล่าสุด ที่ใช้เทคโนโลยี5จีของบริษัทเร็วที่สุดภายในไตรมาสนี้
นอกจากนี้ แอ๊ปเปิ้ล ยังเพิ่มการผลิตลำโพงอัจฉริยะ หูฟังและคอมพิวเตอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อันเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธกระจายแหล่งผลิตให้มีความหลากหลาย โดยในเวียดนามนั้น แอ๊ปเปิ้ล ใช้วิธีจ้างซัพพลายเออร์หลายๆแห่งผลิตสินค้าให้ รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถด้านการผลิตโฮมแพ็ด มินิรุ่นล่าสุด ซึ่งเป็นลำโพงอัจฉริยะที่ทำงานด้วยเสียง โดยอุปกรณ์นี้ผลิตในเวียดนามตั้งแต่เริ่มมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้ แอ๊ปเปิ้ล ยังเพิ่มการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการฟังในเวียดนามด้วย รวมถึงแอร์พอดส์รุ่นต่างๆ
ขณะที่แหล่งข่าวอีกคนหนึ่ง เปิดเผยว่า แอ๊ปเปิ้ลได้ย้ายฐานการผลิตแม็ค มินิ หนึ่งในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะของบริษัทไปยังมาเลเซียและบริษัทยังเตรียมย้ายการผลิตแม็คบุ๊คส่วนหนึ่งไปยังเวียดนามในปีนี้ด้วย โดยการผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ของแอ๊ปเปิ้ลยังคงอยู่ในจีน
“แอ๊ปเปิ้ลและบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆต้องการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน และปัจจุบันยังคงยืนยันในจุดยืนนี้แม้ว่าสหรัฐจะได้ประธานาธิบดีคนใหม่เป็นโจ ไบเดนแล้วก็ตาม และตอนนี้พวกเขากำลังศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่การผลิตอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องเท่านั้น แต่สร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ในที่ตั้งใหม่ด้วย
โดยเฉพาะกรณีของบริษัทแอ๊ปเปิ้ล ส่วนใหญ่เป็นแหล่งผลิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเพิ่มผลผลิตหลักๆ อาทิ ไอโฟน ไอแพด แมคบุ๊ค แอร์พอดส์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ถือเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่าช่วงสองปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรแต่ตอนนี้ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้”ผู้จัดการในระบบห่วงโซ่อุปทานรายหนึ่ง ที่ปฏิเสธเปิดเผยชื่อกล่าว
ในส่วนของบรรดาซัพพลายเออร์แอ๊ปเปิ้ล ได้ทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการกระจายแหล่งผลิตให้มีความหลากหลาย เช่นกรณีของซัพพลายเออร์หลักอย่างฟ็อกซ์คอนน์ ที่ซื้อขายหุ้นในนามบริษัทฮอนไห่ พรีซิชัน อินดัสตรี อัดฉีดเงิน 270 ล้านดอลลาร์เพื่อตั้งหน่วยงานในเครือในเวียดนามช่วงปลายปีที่แล้ว เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของบริษัทไต้หวันที่จะเพิ่มกำลังการผลิตในประเทศนี้
ลักซ์แชร์ พรีซิชัน อินดัสตรี บริษัทประกอบไอโฟนรายใหม่ที่เป็นซัพพลายเออร์หลักของแอร์พอดส์ด้วยเช่นกัน กำลังเร่งขีดความสามารถด้านการผลิตโฮมพอด มินิในตอนเหนือของเวียดนามเพื่อแก้ปัญหาภาวะอุปทานตึงตัวที่เกิดกับอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากชนิดนี้
ความเคลื่อนไหวของแอ๊ปเปิ้ลเป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนแนวโน้มของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกที่ลดการพึ่งพาด้านการผลิตในจีน ที่ถือเป็นโรงงานผลิตของโลก เนื่องจากปัจจุบันต้นทุนค่าแรงในจีนเพิ่มขึ้นมาก ประกอบกับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างรัฐบาลสหรัฐและรัฐบาลปักกิ่งที่ยืดเยื้อยาวนาน และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่สร้างความปั่นป่วนแก่ระบบห่วงโซ่อุปทานที่พึ่งพาประเทศใดประเทศหนึ่งมากเกินไป
รัฐบาลสหรัฐยังเริ่มรณรงค์ปรับโครงสร้างระบบห่วงโซ่อุปทาน พร้อมทั้งเรียกร้องให้เหล่าซัพพลายเออร์ย้ายฐานการผลิตออกจากจีน
ด้านจีน ซึ่งย้ำมาตลอดว่ามีระบบห่วงโซ๋อุปทานที่ซับซ้อนและครอบคลุมที่สุดในโลก ยังคงเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญสำหรับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ๆ แต่การตัดสินใจของแอ๊ปเปิ้ลที่โยกการผลิตสินค้าหลายชนิดออกจากตลาดจีน บ่งชี้ว่า แนวคิดการแยกเศรษฐกิจหรือห่วงโซ่การผลิตออกจากอีกประเทศหนึ่งอย่างสิ้นเชิงที่เกิดกับกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในสหรัฐและจีนยังคงเป็นประเด็นร้อนในปีนี้
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 28 มกราคม 2564