นอกจากวัคซีนโควิดที่เข้ามาสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเศรษฐกิจ และจะช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย ขณะเดียวกันอีกความเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการคือ การเปิดประเทศ ในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่อย่างไรก็ตามต้องหาแนวทางที่รอบคอบและรัดกุม

 

ประเทศไทยบอบช้ำกับวิกฤติโควิดมายาวนาน แม้วันนี้จะมีวัคซีนแล้ว แต่ก็อยู่ระหว่างการบริหารจัดการเพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึง รวมทั้งยังต้องจัดลำดับการฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงเป็นขั้นเป็นตอน ข้อเสนอจากหลายภาคส่วนต้องการให้รัฐบาลพยายามกระจายวัคซีนให้ได้เร็วที่สุด เพื่อให้คนไทยมีภูมิคุ้มกัน และลดจำนวนผู้ติดเชื้อลง สร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเศรษฐกิจ นักลงทุน เพื่อให้การพลิกฟื้นเศรษฐกิจทำได้อย่างสัมฤทธิผล

 

แต่ในจังหวะเช่นนี้ ประเทศก็ต้องเดินหน้าต่อ ทุกภาคส่วนต้องเร่งฟื้นฟูรักษาแผลจากวิกฤติโรคระบาด และคิดเลยไปถึงแผนการในอนาคตว่าธุรกิจจะดำเนินต่อไปอย่างไร ท่ามกลางความท้าทายของโลกที่ไม่ได้มีแค่โควิด-19 เหล่านักธุรกิจ ผู้นำความคิดและนักวิชาการ ต่างพูดถึงการทำ “ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น” ซึ่งไม่ว่าจะมีโควิด หรือไม่มีโควิด โลกต้องดำเนินไปในหนทางยุคใหม่ที่มีดิจิทัลเป็นตัวขับเคลื่อนอยู่แล้ว เพียงแต่วิกฤติโรคระบาดครั้งนี้เป็นการบีบให้ทุกองค์กร ทุกชีวิตต้องปรับเปลี่ยนตัวเองอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่ต้องยอมรับว่า โควิด ปลุกเร้าให้องค์กรต้องเปลี่ยนกรอบคิด (mindset) ใหม่หมด

 

ซีอีโอบางคนระบุว่า “การทรานส์ฟอร์ม" ก็เหมือนกับการกลายพันธุ์ขององค์กรที่ต้องเปลี่ยน “ดีเอ็นเอ” ใหม่ ความยากอยู่ที่การเปลี่ยนมายด์เซ็ตและวิธีการทำงาน หลายองค์กรไปเน้นเริ่มต้นนับหนึ่งที่เทคโนโลยี แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่สำคัญ คือ "คน" และ "วัฒนธรรม" ขององค์กรที่จะมีส่วนขับเคลื่อนกลยุทธ์ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นกลไกสำคัญมากกว่า 

 

วันนี้หลายองค์กรขยับตัว ไม่รอให้โรคระบาดหายขาด ปรับเปลี่ยนวิธีคิดองค์กรแบบใหม่ให้รับกับโลกยุคที่มีความผันผวนสูง ความท้าทายที่มาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว องค์กรจึงอยู่แบบเดิมไม่ได้ ต้อง รีสกิล อัพสกิล เพื่อให้มี นิว สกิล (new skill) ไว้รับมือต่อสู้กับโลกแห่งอนาคตที่ขยับเข้ามาใกล้เรามากขึ้นทุกที ใครปรับตัวได้ก่อน เรียนรู้ได้ก่อน ย่อมได้เปรียบ

 

หนึ่งในความเร่งด่วนของการพลิกฟื้นเศรษฐกิจในห้วงเวลานี้ คือ การเปิดประเทศ เพราะประเทศไทยพึ่งพารายได้นักท่องเที่ยวเป็นหลัก วันนี้ (26 มี.ค.) จึงต้องจับตา การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบศ.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน จะหารือกันถึงมาตรการการเปิดรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในพื้นที่นำร่อง เน้นรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีน เริ่มจากจังหวัดที่เสนอตัวว่า มีความพร้อมและสามารถทำได้ซึ่งอาจจะเป็น ภูเก็ต แหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลกของไทย ซึ่งหากทำได้ดีก็จะขยายไปยังจังหวัดอื่นๆ ต่อไป

 

เราเห็นว่าการ “เปิดประเทศ” ในห้วงเวลานี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องร่วมกันขบคิด รัฐบาลและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ต้องหาแนวทางที่รอบคอบ รัดกุม และต้องยั่งยืน เราเห็นด้วยว่า ประเทศต้องเปิด แต่เปิดอย่างไร แนวทางป้องกันควบคุม รองรับดีพอแค่ไหน รัฐและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เอกชนท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ ต้องร่วมกันตกผลึกทางความคิดให้ผลประโยชน์ตกอยู่กับประเทศให้ได้มากที่สุด เพราะนี่คือการเดิมพันครั้งสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศ

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 26 มีนาคม 2564