หอค้า เสนอ "แบงก์ชาติ" ยอมให้เอสเอ็มอีใช้ยอดขาย เข้าถึงซอฟต์โลน
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ขับเคลื่อนการสนับสนุนภาครัฐเรื่องการกระจายวัคซีนให้ทั่วถึง เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 แล้ว วันนี้ (10 พฤษภาคม) หอการค้าไทย จะเข้าพบผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อนำเสนอแนวทางเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ด้วยดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นเพื่อให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กเข้าถึงแหล่งเงินทุน ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย ซึ่งเป็น 1 ในภารกิจ 99 วันแรก ของหอการค้าไทย ที่จะเร่งฟื้นเศรษฐกิจไทยจากสภาวะวิกฤตโควิด-19
ปัจจุบันผู้ประกอบการจำนวนมากโดยเฉพาะรายเล็ก ประสบปัญหาสภาพคล่องเป็นอย่างมาก และบางรายต้องพึ่งแหล่งเงินกู้นอกระบบ เพราะไม่สามารถเข้าถึงซอฟต์โลนของภาครัฐได้ ทั้งที่ผู้ประกอบการหลายรายยังมีศักยภาพ และมีความสามารถที่จะอยู่รอดและเติบโตได้ท่ามกลางวิกฤตนี้ หอการค้าไทยได้เห็นความพยายามของผู้ประกอบการ และต้องการช่วยให้ธุรกิจเอสเอ็มอีได้อยู่รอด ลดต้นทุน มีทางเลือกในการค้ำประกันด้วยเครื่องมือทางการเงินประเภทอื่นๆ และสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น ที่สำคัญคือมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น จึงได้ให้การสนับสนุนโครงการใหม่เพื่อเสริมสภาพคล่อง และช่องทางการค้าขายให้กับเอสเอ็มอี โดยโครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างกลุ่มธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่กับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่จะนำเอาระบบเทคโนโลยี มาทำหน้าที่ช่วยคัดกรองและให้ข้อมูลลูกค้าเอสเอ็มอีที่เป็นผู้เช่าพื้นที่ รวมถึงเป็นซัพพลายเออร์กับธนาคารพาณิชย์ โดยให้เอสเอ็มอี ใช้ใบคำสั่งซื้อ หรือใบส่งของ ที่มีกับธุรกิจค้าปลีกนั้น มาเป็นหลักค้ำประกัน เพื่อช่วยให้การพิจารณาเครดิตเป็นไปอย่างรวดเร็ว และเพิ่มการเข้าถึงสภาพคล่องให้กับเอสเอ็มอีเหล่านั้น ที่มีหลายแสนรายทั่วประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทเซ็นทรัลฟู้ดรีเทล ได้ร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย จัดทำโครงการต้นแบบแซนด์บ็อกซ์ นำร่องในเฟสแรก เพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี ที่มียอดวงเงินกู้ต่ำกว่า 5 ล้านบาท โดยล่าสุดได้นำเสนอรายชื่อ และข้อมูลที่ได้รับการคัดเลือกจากประวัติที่น่าเชื่อถือ ที่มีการทำการค้ากับทางบริษัทฯ มาเป็นระยะเวลาพอสมควร ให้ธนาคารอนุมัติกว่า 6,000 ราย เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีจำนวนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจำนวนกว่า 1,000 ราย ได้รับอนุมัติสินเชื่อเป็นกลุ่มแรก ภายในเดือนพฤษภาคม 2564 และกว่า 70% ของทั้ง 6,000 รายนี้ ยังไม่เคยเข้าถึงซอฟต์โลน มาก่อน
หอการค้าไทย ทราบว่า บ่ายวันนี้ (10 พฤษภาคม) ทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้เตรียมที่จะนำเรื่อง ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น มาปรับปรุงระบบการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการเช่นกัน ซึ่งทางหอการค้าไทยจะนำต้นแบบ แซนด์บ็อกซ์ นี้ ที่มีผลลัพธ์ซึ่งวัดผลเป็นรูปธรรมได้ เข้าเสนอหารือเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ที่จะขยายความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในเครือข่ายของหอการค้าไทย โดยจะนำเทคโนโลยี เข้ามาช่วยทำงานให้กระบวนการอนุมัติและกระบวนการตรวจสอบเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และโปร่งใส รวมทั้ง การทำงานร่วมกับธนาคารในการจัดทำฐานข้อมูล นำมาวิเคราะห์เพื่อลดความเสี่ยง ป้องกันการปลอมแปลงข้อมูล และการขอสินเชื่อซ้ำซ้อน ทำให้ธนาคารมีความมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอี โดยเฉพาะสมาชิกของสมาคมต่างๆ เช่น สมาคมค้าปลีกไทย และสมาคมศูนย์การค้าไทย
นอกจากทางเซ็นทรัล รีเทล ที่มาเริ่มทำต้นแบบแล้ว หอการค้าไทยได้เตรียมหารือซีอีโอ ของแต่ละบริษัทค้าปลีก มาร่วมขยายผลเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ตามแนวทางนี้ร่วมกัน ทั้ง The Mall Group, Robinson, Tops, 7-11, Makro, Lotus, Big C, CJ express, ตั้งงี่สุน และอีกหลายราย ที่อยู่ระหว่างเจรจาเชิญเข้ามาร่วมกัน เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายเล็ก โดยคาดว่าจะกระจายต้นแบบการขอสินเชื่อซอฟต์โลนไปยังเอสเอ็มอี มากกว่า 100,000 รายทั่วประเทศ ภายในเดือนธันวาคม 2564 เพื่อเสริมสภาพคล่องและเป็นแต้มต่อในการทำธุรกิจต่อไป โดยหอการค้าไทยพร้อมที่จะ Connect the Dots ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการช่วยเอสเอ็มอีให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยร่วมกัน
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 10 พฤษภาคม 2564