เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2564 มณฑลซานตงได้ปล่อยตัวขบวนรถไฟบรรทุกสินค้า Cross-border E-commerce เส้นทางจีน – ยุโรป (Qilu) ขบวนแแรก โดยเดินทางออกจากศูนย์ขนส่งสินค้าในเมืองชิงต่าว (Qingdao multimodal transportation center) ถึงปลายทางที่กรุงมินสค์ ประเทศเบลารุส

 

รถไฟขบวนนี้เป็นรถไฟที่ดำเนินการโดยกลุ่ม Shandong Hi-speed Group (SDHS) ของมณฑลซานตง เป็นรถไฟบรรทุกสินค้าของใช้ประจำวัน 100 ตู้ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนขนาดเล็ก เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ไฟฟ้า และของใช้ในชีวิตประจำวันอื่น ๆ รวมมูลค่าประมาณ 4.3 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเดินผ่านเส้นทางด่านหม่านโจวหลี่ (Manzhouli) เมืองหม่านโจวหลี่ เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ประเทศจีน โดยใช้เวลาประมาณ 15 – 17 วัน ถึงกรุงมินสค์ ประเทศเบลารุส

 

ตามรายงานของสำนักงานศุลกากรเมืองชิงต่าว หากบิลสินค้ามีมูลค่าน้อยกว่า 5,000 หยวน และไม่เกี่ยวข้องกับระบบการรับรอง การตรวจสอบ และระบบภาษี สามารถผ่านระบบส่งออก Cross-border E-commerce ในขั้นตอนที่ง่ายขึ้น โดยมีการออกมาตรการพิเศษเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการในการส่งออกสินค้า Cross-border E-commerce ทั้งแบบขนาดเล็ก ขนาดกลาง ทำให้สะดวกยิ่งขึ้นในการส่งสินค้าและลดต้นทุนทางการศุลกากร นอกจากนี้ ยังได้กำหนดช่องพิเศษในการตรวจสอบ ขบวนรถไฟส่งออกสินค้า Cross-border E-commerce เส้นทางจีน – ยุโรป เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพการบริการเป็นไปอย่างราบรื่นตลอด 24 ชั่วโมง

 

ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2564 สำนักงานศุลกากรเมืองชิงต่าวได้รายงานว่า ศูนย์ขนส่งสินค้าในเมืองชิงต่าว (Qingdao multimodal transportation center) มีรถไฟบรรทุกสินค้าเส้นทางจีน – ยุโรป (Qilu) แล้ว จำนวน 260 ขบวน จำนวน 21,000 (TEUs) เพิ่มขึ้นร้อยละ 83.1 และร้อยละ 118.4 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563

 

นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการไทยในการนำเข้าหรือส่งออกสินค้าไปจีนและยุโรป  ซึ่งเส้นทางดังกล่าวจะเดินทางผ่านหัวเมืองที่สำคัญ ๆ ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน เข้าสู่ประเทศรัสเซีย และสิ้นสุดปลายทางที่กรุงมินสค์ ประเทศเบลารุส ทั้งนี้ การขนส่งผ่านรถไฟบวนดังกล่าว ไม่ได้เอื้ออำนวยแก่ผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังเอื้ออำนวยให้ธุรกิจระดับกลางและเล็กอีกด้วย จากมาตรการพิเศษที่ประกาศออกมาช่วยผู้ประกอบการในธุรกิจขนาดเล็ก ทำให้มีความสะดวกในการส่งสินค้ามากขึ้น และสามารถลดต้นทุนทางการศุลกากรได้

 

ที่มา globthailand.com

วันที่ 12 กรกฏาคม 2564