ส่งออกอาเซียนโตแรง สวนโควิดระบาด "สนค." ชี้ครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง
ส่งออกไทยเดือนมิ.ย.โตแข็งแกร่งเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน สวนกระแสระบาดโควิด ผลจากไทยส่งออกรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบขยายตัว140 % สนค.มองครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง
การส่งออกของไทยเดือน มิ.ย .พุ่งแรง 43.82% มีมูลค่า 23,699.43 ล้านดอลลาร์หรือคิดเป็นเงินไทย 738,135.34 ล้านบาท ขยายตัวมาก ซึ่งถือว่าเป็นนิวไฮใหม่ ที่สูงสุดในรอบ 11 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัว 41.56 % ปี ซึ่งการส่งออกไทยขยายตัวต่อเนื่องในระดับ 40 % ขึ้นไปติดต่อกัน 2 เดือนแล้ว โดยเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาขยายตัว 41.59% มูลค่า 23,057 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้การส่งออกครึ่งแรกของปี 2564 ขยายตัวที่ 15.53 % เมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำและยุทธปัจจัยขยายตัวที่ 20.84 % ซึ่งสะท้อนภาคเศรษฐกิจจริง (Real Sector) ที่เติบโตอย่างชัดเจน
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การส่งออกของไทยยังโตแรงเป็นผลมาจากการดำเนินการตามแผนการส่งเสริมการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของภาคผลิตทั่วโลก สะท้อนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ภาคการผลิตโลก (Global Manufacturing PMI) อยู่เหนือระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 โดยผลผลิต คำสั่งซื้อสินค้าใหม่ และการจ้างงานในหลายประเทศล้วนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประเทศคู่ค้าสำคัญ อาทิ สหรัฐฯ และยุโรป
นอกจากนี้ ปัจจัยเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมภาคการส่งออกของไทย ทั้งนี้ การส่งออกครึ่งแรกของปี 2564 ขยายตัวที่ร้อยละ 15.53 เมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ร้อยละ 20.84 สะท้อนภาคเศรษฐกิจจริง (Real Sector) ที่เติบโตอย่างชัดเจน
การส่งออกของไทยในเดือนมิ.ย.ถือได้ว่าเติบโตอย่างแข็งแกร่งและเร่งตัวดีกว่าหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย และเมื่อเทียบกับประเทศกลุ่มอาเซียน การส่งออกไทยอยู่ในอันดับที่ 2 รองจากอินโดนีเซียที่ขยายตัว 54.46 % ขณะที่เวียดนามคู่แข่งสำคัญของไทยการส่งออกขยายตัว 20.40 % ส่วนสิงคโปร์ส่งออกขยายตัวอยู่ที่ 27.77 % ซึ่งเป็นผลมาจากตลาดส่งออกของไทยขยายตัวเกือบทุกตลาด โดยเฉพาะตลาดสำคัญอย่าง สหรัฐ สหภาพยุโรป จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน ขยายตัวอย่างต่อเนื่อ
หากมองเฉพาะการเติบโตในอาเซียน ปรากฏกว่า ตลาดอาเซียน (5) ขยายตัวในระดับสูง ถึง 48.7 %,มูลค่า 2,968 ล้านดอลลาร์ เป็นการขยายตัวเนื่องจากเดือน พ.ค.โดยเฉพาะอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ที่ฟื้นตัวดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ ตลาดCLMV มีศักยภาพการเติบโตในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะตลาดเมียนมาที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องคอมพิวเตอร์ฯ เม็ดพลาสติก และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น ขณะที่ ครึ่งปีแรกของปี 2564 ขยายตัว 6 %
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ระบุว่า เหตุผลหลักที่ตลาดอาเซียนยังขยายตัวท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังหนักหน่วง เป็นผลจากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวสูง โดยเฉพาะรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 140 % น้ำมันสำเร็จรูป 154 % เครื่องคอมพิวเตอร์ 82 % เม็ดพลาสติก 87 % เคมีภัณฑ์ 86 % สินค้า ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน (Work from Home) ขยายตัวเกือบทุกหมวดสินค้า
“ตัวเลขการส่งออกรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ถือว่าขยายตัวสูงมากในช่วงนี้ ซึ่งต้องพิจารณาว่าเป็นเพราะสาเหตุใด อาจเป็นเพราะการแพร่ระบาดโควิดทำให้คนไม่ต้องการใช้รถสาธารณะ ซึ่งหากเป็นตลาดยุโรปหรือสหรัฐ ปัจจัยนี้ก็น่าจะมีน้ำหนักมากที่สุด แต่ในตลาดอาเซียนอาจต้องดูองค์ประกอบหลายอย่าง”
สำหรับแนวโน้มการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังนั้น มองว่าจะขยายตัวดี จากผลของการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 6 แสดงให้เห็นถึงการกลับมาฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ราคาพลังงานปรับสูงขึ้นตามความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น หลังหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เป็นปัจจัยบวกต่อการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน โดยเฉพาะในตลาดอาเซียน และ การกระจายวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในแต่ละประเทศ ท้าให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาอีกครั้งซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อกำลังซื้อของประเทศคู่ค้าของไทยในปีนี้
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 24 กรกฏาคม 2564