กทม.ลงพื้นที่ตรวจสุวรรณภูมิ ยัน! วัคซีนเกินเป้า พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยว
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยาน เดินทางไปตรวจความพร้อมของการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยว ที่ท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ
โดยวันนี้ทางท่าอากาศยานไทยก็ได้มีการเปิดให้พนักงานที่ปฏิบัติงานในสนามบินสุวรรณภูมิ มาฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ซึ่งมีพนักงานมาเข้าคิวรอรับวัคซีนอย่างคับคั่ง
พล.ต.ท.โสภณ กล่าวว่า ในส่วนของ กทม.ขณะนี้ในเรื่องของการเตรียมการนั้น กทม.มีความพร้อมแล้ว เพราะฉีดวัคซีนให้คนกรุงเทพฯ เข็มที่ 1 เกิน 100% แล้ว
“แปลว่าคนกรุงเทพฯ 7 ล้านเศษ เราฉีดได้เกิน 7 ล้านคน และในส่วนของวัคซีนเข็มที่ 2 ขณะนี้เราฉีดได้ 74.90% เกิน 70% ที่ได้กำหนดไว้ว่าเป็นมาตรการขั้นต่ำ ว่าในการเปิดประเทศจะต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 เกิน 70% ขึ้นไป
ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความมั่นใจ มั่นใจในส่วนของตัวนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติที่จะมาเที่ยวกรุงเทพฯ เขาเองจะต้องมั่นใจว่ากรุงเทพปลอดภัย ไม่มาติดโควิด-19 ที่กรุงเทพฯ ในขณะเดียวกันคนกรุงเทพฯ เองก็ต้องมีความมั่นใจ ว่าจะปลอดภัยจากนักท่องเที่ยว โดยในวันนี้ก็ได้มาดูความพร้อมของการรองรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ลงเครื่องบิน และการตรวจสอบต่างๆ ไปจนถึงการเดินทางไปยังที่พักในกรุงเทพฯ ซึ่งกระบวนการต่างๆ ถือว่าเตรียมได้พร้อมมาก” พล.ต.ท.โสภณ กล่าว
รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ในส่วนของแผนเผชิญเหตุ กทม.มีกระบวนการในเรื่องของการคัดกรอง ในกรณีที่ตรวจพบว่า ใครก็ตามที่ติดเชื้อ ก็จะมีระบบการรักษาพยาบาลเตรียมไว้พร้อม
“ในทำนองเดียวกัน เราได้กำหนดเอ็กซ์ ซิท แพลน ไว้ ในกรณีที่สถานการณ์เลวร้ายลง โดยได้กำหนดระดับไว้ว่าระดับไหนที่เราจะปิดบางกอก แซนด์ บ็อกซ์ และเราจะมีมาตรการในการแก้ไขควบคู่ไปกับสถานการณ์แพร่ระบาดอย่างไร ซึ่งทางกทม.ได้เตรียมแผนไว้ทั้งหมดแล้ว” พล.ต.ท.โสภณ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ศักยภาพในการรองรับการแพร่ระบาดของสาธารณสุขกรุงเทพฯ นั้น มีความพร้อมแค่ไหน พล.ต.ท.โสภณ กล่าวว่า ในส่วนของการรองรับผู้ป่วย หรือการรักษา ขณะนี้ขึ้นอยู่กับสำนักการแพทย์ ซึ่งขีดการรักษาส่วนเฉพาะของโรงพยาบาลสังกัด กทม. 11 แห่ง ก็ถือว่ามีความพร้อมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเตียงในระดับสีแดง หรือสีเหลือง รวมทั้งยังมีโรงพยาบาลของเอกชน โรงพยาบาลต่างๆ ที่มีศักยภาพในการรักษาที่พร้อม พร้อมมากๆ
วันเดียวกัน พล.ต.ท.โสภณ พร้อมคณะ ได้เดินทางมาที่โรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park เพื่อตรวจความพร้อมของโรงแรมในการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามา หลังจากผ่านด่านตรวจจากทางสนามบินเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางโรงแรมดังกล่าว เป็นเพียงหนึ่งโรงแรมทางเลือกให้แก่นักท่องเที่ยวได้ตัดสินใจ ว่าต้องการเข้ามากักตัวเพื่อทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบสวอบ และเข้าพักเพื่อรอผลตรวจเป็นระยะเวลา 1 คืนหรือไม่
โดยจะมีการจัดตั้งการตรวจหาเชื้อดังกล่าวนี้ในทุกโรงแรมที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าพัก ซึ่งขึ้นอยู่กับมาตรการของทางโรงแรมว่าจะจัดให้มีการตรวจหาเชื้อที่โรงแรม หรือจะให้ไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลที่ได้มีการจับคู่กัน หากผลตรวจออกมาเป็นลบ ก็จะสามารถออกไปเข้าพักในที่ต่างๆ หรือเที่ยวในที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ ได้ แต่หากผลตรวจเป็นบวก ก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการรักษาโรคต่อไป
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 25 ตุลาคม 2564