รัฐบาลเวียดนามออกมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนว่า โรงงานคู่สัญญาราว 200 แห่งทั่วประเทศเวียดนาม ที่ผลิตสินค้าป้อนให้กับบริษัท ไนกี้ ผู้ผลิตเครื่องกีฬายักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน ได้เริ่มกลับมาดำเนินการผลิตอย่างเต็มสูบแล้ว หลังจากถูกปิดดำเนินการไปเป็นเวลาหลายเดือนเนื่องจากมาตรการควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของทางการเวียดนาม ความเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามเร่งฟื้นอุตสาหกรรมการผลิตที่เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเวียดนามกลับคืนมา

 

ในแถลงการณ์ของรัฐบาลเวียดนามยังเปิดเผยอีกว่า บริษัทไนกี้จะยังขยายการลงทุนและการผลิตในประเทศเวียดนามต่อไป โดยมีขึ้นหลังจากนายฝั่ม มิญ จิ๊ญ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้พบปะพูดคุยกับนายโนเอล คินเดอร์ ประธานเจ้าหน้าบริหารด้านความยั่งยืนขององค์กรของไนกี้ นอกรอบการประชุมสุดยอดค็อป 26 ที่เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร

 

ทั้งนี้ เกือบครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์ไนกี้ ผลิตในประเทศเวียดนาม ขณะที่เกือบ 80% ของโรงงานผู้ผลิตเครื่องกีฬาให้กับทางไนกี้ในเวียดนาม ได้ถูกบังคับให้ปิดโรงงานระงับการผลิตไปตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากทางการเวียดนามบังคับใช้มาตรการจำกัดความเคลื่อนย้ายเพื่อควบคุมสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 หลังเกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักในนครโฮจิมินห์ ศูนย์กลางเศรษฐกิจของเวียดนาม และแพร่ลามไปในหลายจังหวัดที่เป็นฐานการผลิตภาคอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ

 

มาตรการคุมเข้มดังกล่าวของรัฐบาลเวียดนาม ได้ส่งผลให้กลุ่มนักลงทุนต่างชาติออกมาส่งสัญญาณเตือนว่าพวกเขาอาจจะย้ายฐานการผลิตออกไปจากเวียดนาม ก่อนที่ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมารัฐบาลเวียดนามจะยกเลิกมาตรการเข้มงวดดังกล่าว แต่ก็ต้องมาเผชิญกับภาวะขาดแคลนแรงงานอีก โดยแรงงานอย่างน้อย 3 ล้านคนในเวียดนามอยู่ในภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอและการผลิตเครื่องกีฬา อย่างไรก็ดีทางการเวียดนามได้ให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนโควิดให้กับกลุ่มแรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาเป็นอันดับแรก ในการกระตุ้นอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

 

ขณะที่ล่าสุดเวียดนามมียอดผู้ติดเชื้อโควิดสะสมมากกว่า 930,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 22,000 ราย โดยราว 1 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศได้ฉีดวัคซีนแล้ว

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2564