"Test & Go" รอบใหม่ ความหวังฟื้นท่องเที่ยวไทย!
วานนี้ (1 ก.พ.) เป็นวันแรกของการกลับมาเปิดระบบลงทะเบียนรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรทั้งชาวไทยและต่างชาติประเภท Test & Go อีกครั้ง หลังจากรัฐบาลจำเป็นต้องระงับการลงทะเบียนฯรายใหม่มานานกว่า 1 เดือน ตั้งแต่ 22 ธ.ค.2564 เพื่อสกัดการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
ถือเป็นการเดิมพัน “เปิดประเทศ” ครั้งสำคัญ เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหลังต้องเผชิญคลื่นยักษ์โควิด-19 มานาน 2 ปีเต็ม!
ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จากการติดตามความเคลื่อนไหวของการกลับมาเปิดระบบลงทะเบียนนักท่องเที่ยวประเภท Test & Go ตั้งแต่เวลา 9.00 น.ของวานนี้ ตามเวลาประเทศไทย พบว่ามีคนสมัครขอไทยแลนด์พาส (Thailand Pass) ประเภท Test & Go เข้ามาใน “ชั่วโมงแรก” ที่เปิดระบบจำนวน 4,300 คน ถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตามยังต้องรอสรุปจำนวนคนที่ยื่นสมัครทั้งหมดตลอดวันที่ 1 ก.พ.ว่าอยู่ที่เท่าไร
“สำหรับคนที่ยื่นขอไทยแลนด์พาสประเภท Test & Go เมื่อวานนี้ หากต้องการเดินทางเข้าประเทศไทยได้เร็วที่สุด น่าจะเป็นวันที่ 7 หรือ 8 ก.พ.นี้ ขณะเดียวกันพบว่ามีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่เดินทางเข้าไทยในรูปแบบ AQ ที่ต้องเข้ารับการกักตัว ต้องการขอเปลี่ยนเป็นประเภท Test & Go แทน ซึ่งโดยหลักการนั้นไม่สามารถทำได้ จึงได้อธิบายทำความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยวเพิ่มเติม”
ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขใหม่ของการปรับมาตรการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ต้องเดินทางเข้าไทยภายใน 60 วันหลังจากได้รับอนุมัติไทยแลนด์พาสแล้ว ส่วนเรื่องของระบบบริหารจัดการหลังบ้านด้านต่างๆ ยังสามารถรับมือได้ ไม่พบประเด็นน่ากังวล
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คาดการณ์สถานการณ์ตลาดต่างประเทศช่วงไตรมาส 1 ปี 2565 ว่า จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนไทย 338,645 คน เพิ่มขึ้น 1,579% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนรายได้คาดอยู่ที่ 26,065 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,062% เนื่องจากมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น หากคงมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง
มาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า เบื้องต้นสมาคมฯรับทราบว่ามีผู้สนใจสมัครขอไทยแลนด์พาสประเภท Test & Go เข้ามาจำนวนมากตั้งแต่วันแรกที่เปิดระบบ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี คาดว่าน่าจะเป็นผู้เดินทางทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีความประสงค์จะสมัคร Test & Go ก่อนหน้านี้ แต่รัฐบาลประกาศปิดระบบไปเสียก่อนเมื่อปลายเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว พอกลับมาเปิดระบบอีกครั้ง ก็ยื่นสมัครทันทีเพื่อเดินทางเข้ามาในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.นี้
อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามว่าจำนวนคนสมัครฯทั้งหมดของวันแรกอยู่ที่เท่าไร และกระแสการสมัครฯจะเข้ามาดีต่อเนื่องมากน้อยแค่ไหน เพราะเงื่อนไขของการเปิด Test & Go รอบนี้ ผู้เดินทางฯมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม! เพราะต้องจ่ายค่าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR รวม 2 ครั้ง ในวันแรกและวันที่ 5 ของการเดินทางเข้าไทย
ประกอบกับนักท่องเที่ยวตลาดเป้าหมายในช่วงไฮซีซั่นนี้จนถึงเดือน มี.ค.นี้ เช่น ตลาดสหรัฐ ยุโรป รัสเซีย อาจจะตัดสินใจไปเที่ยวประเทศอื่นแทน! ในช่วงที่ประเทศไทยปิดระบบรับสมัครนักท่องเที่ยวประเภท Test & Go ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ภาครัฐและเอกชนต้องร่วมกันรุกทำตลาดอื่นๆ ในเอเชีย เช่น อินเดีย และตะวันออกกลาง ให้เดินทางมาเที่ยวไทยในช่วงโลว์ซีซั่น ตั้งแต่เดือน เม.ย.นี้เป็นต้นไป เพื่อมาชดเชยยอดนักท่องเที่ยวที่หายไป
“ในส่วนของภาคเอกชนท่องเที่ยว แน่นอนว่าเราตื่นเต้น ดีใจ เพราะการกลับมาเปิดระบบลงทะเบียน Test & Go อีกครั้ง ทำให้บรรยากาศการทำธุรกิจกลับมาดีอีกครั้ง ทุกคนกลับมามีความหวัง หวังว่าภาคท่องเที่ยวไทยจะกลับมาดีขึ้น อยากเห็นความยั่งยืนและเดินหน้าต่อไปของการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่กลับมาเปิดๆ ปิดๆ อีก”
ทั้งนี้ภาคเอกชนโรงแรมเองก็ต้องให้ความร่วมมือแก่รัฐบาลอย่างเต็มที่ เช่น รับผิดชอบการติดตามตัวผู้เดินทางฯให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครั้งที่ 2 ในวันที่ 5 ของการเดินทางเข้าไทย ให้ได้ครบ 100% ตามเป้าหมาย เพื่อให้ระบบการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภท Test & Go ยังเดินหน้าต่อไปได้!
โดยเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ททท.ได้จัดสัมมนาออนไลน์ชี้แจงผู้ประกอบการโรงแรมที่ได้มาตรฐานด้านสุขอนามัย SHA++ (ชา เอ็กซ์ตรา พลัส) และสาธิตการใช้ระบบ Thailand Pass Hotel & Swap System หรือ TPHS เพื่อตรวจสอบเอกสารสำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร ทั้งชาวไทยและต่างชาติในระบบ Test & Go ซึ่งกลับมาเปิดระบบอีกครั้งในวันที่ 1 ก.พ.นี้เป็นต้นไป
ประกอบกับมีการพูดถึงแนวทางการพิจารณาให้โรคโควิด-19 เป็น “โรคประจำถิ่น” หลังระบาดมา 2 ปีเต็ม ขณะเดียวกันในต่างประเทศก็พบการระบาดน้อยลง มีคนเสียชีวิตน้อยลง แม้ป่วยก็มีอาการไม่รุนแรง ในประเทศไทยเองก็มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 กระตุ้นภูมิคุ้มกันมากขึ้นเป็น 20% ของประชากรแล้ว ทั้งหมดนี้เป็น “สัญญาณที่ดี” ต่อภาคเอกชนท่องเที่ยวไทย ทำให้กลับมามีความหวังอีกครั้ง แต่ก็เป็นความหวังที่ต้องเดินอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ต้องดูแลไม่ปล่อย!
จตุพร วิไลแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฮมป์ตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ HHR ในเครือออริจิ้น กล่าวว่า แม้ตอนนี้จะมีการกลับมาเปิดระบบลงทะเบียนนักท่องเที่ยวประเภท Test & Go รายใหม่แล้ว แต่ยัง “มีดีมานด์เข้ามาไม่มากพอ” ที่บริษัทฯจะไปเล่นกับตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงเลือกจะอยู่กับตลาดที่เรามั่นใจมากๆ อย่างโปรดักต์ “เรสซิเดนซ์” ขายห้องพักระยะยาวมาตรฐานระดับโรงแรมไปก่อน แล้วถึงมองว่าอีก 2 ปีนับจากนี้ จะเป็นจังหวะที่เหมาะกับเข้าไปทำตลาด “Pure Hotel Function” แล้วหรือยัง
อย่างไรก็ตามโรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท กรุงเทพฯ ทองหล่อ ขนาด 303 ห้องพัก แม้จะมีการปรับโมเดลขายห้องพักจากรายวันมาเป็นการขายแบบพำนักระยะยาว แต่ก็ได้มีการทำแพ็คเกจรองรับนักท่องเที่ยวประเภท Test & Go ที่สนใจเข้าพัก 3-7 วันด้วย
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565