ผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำค่าระวางเรือบรรทุกน้ำมันทั่วโลกพุ่ง
ทั้งราคาน้ำมันและเบี้ยประกันความเสี่ยงสงคราม เป็นปัจจัยร่วมทำค่าระวางเรือบรรทุกน้ำมันทั่วโลกพุ่ง อัตราค่าระวางเรือบรรทุกน้ำมันจากสหรัฐอเมริกาไปยังยุโรปพุ่งขึ้นมากกว่า 8% ในวันพฤหัสฯ (24 ก.พ.) สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2563 เป็นต้นมา
อัตราค่าระวางเรือบรรทุกน้ำมัน พุ่งขึ้นทั่วโลก เนื่องจากบรรดาผู้ค้าน้ำมันพยายามที่จะรับมือกับความวิตกเกี่ยวกับภาวะชะงักงันที่อาจจะเกิดขึ้นกับ ปริมาณน้ำมันจากรัสเซีย และเป็นผลจาก เบี้ยประกันความเสี่ยงสงคราม สำหรับเรือที่เล่นในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน หลังจากที่ รัสเซีย บุกโจมตี ยูเครน
สื่อต่างประเทศรายงานว่า บรรดาเจ้าของเรือกำลังเผชิญกับต้นทุนเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น หลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเกือบ 2 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันศุกร์ (25 ก.พ.) และราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์ ขณะที่ธุรกิจพลังงานทั่วโลกวิตกว่า ยุโรปและสหรัฐอเมริกาอาจจะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรการส่งออก และจะส่งผลกระทบต่อ ปริมาณน้ำมันของรัสเซีย
แหล่งข่าวยังแสดงความกังวลด้วยว่า การคว่ำบาตรเพิ่มเติมใด ๆ อาจทำให้อุปทานน้ำมันและเชื้อเพลิงของรัสเซียบางส่วนถูกจำกัด และจะกระตุ้นให้ผู้ค้าน้ำมันต้องเร่งหาเชื้อเพลิงและน้ำมันจากแหล่งอื่น ๆ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกที่อยู่นอกเขตทะเลดำ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อัตราค่าระวางเรือบรรทุกน้ำมันจากสหรัฐไปยังยุโรปพุ่งขึ้นมากกว่า 8% ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (24 ก.พ.) สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2563 ขณะที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเติมเรือ (bunkering fuel) ที่สิงคโปร์ซึ่งเป็นศูนย์เติมน้ำมันเรือ (bunkering hub) ใหญ่ที่สุดของโลก พุ่งขึ้น 6% ในวันเดียวกันนั้น สู่ระดับ 555 ดอลลาร์ต่อตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา
เทรดเดอร์เชื้อเพลิงรายหนึ่งในสิงคโปร์เปิดเผยว่า "ตอนนี้ ผมคาดว่าสภาวะค่อนข้างจะปั่นป่วน และเบี้ยประกันความเสี่ยงสงครามจะเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่สินค้าของรัสเซียจำนวนมากที่ตั้งใจจะขนถ่ายนั้นอาจถูกยกเลิกด้วยเช่นกัน"
ทั้งนี้ บรรดาผู้ซื้อน้ำมันจากรัสเซียจะเผชิญความยากลำบากในการจัดหาเรือไปบรรทุกน้ำมันจากรัสเซียซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก
แหล่งข่าวการค้าเปิดเผยว่า ผู้ซื้อน้ำมันจากรัสเซียรายใหญ่อย่างน้อย 3 ราย ไม่สามารถเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต (L/C) จากธนาคารของชาติตะวันตกเพื่อปิดการซื้อในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (24 ก.พ.) ซึ่งเป็นผลจากความไม่แน่นอนของตลาดหลังจากรัสเซียบุกโจมตียูเครนอย่างเต็มรูปแบบ
โบรกเกอร์เรืออีกรายหนึ่งเปิดเผยว่า อัตราค่าระวางเรือบรรทุกน้ำมัน Very Large Crude Carriers (VLCCs) จากตะวันออกกลางไปยังจีนซึ่งเป็นอัตราอ้างอิงค่าระวางเรือบรรทุกน้ำมันดิบนั้น เพิ่มขึ้น 4.77 Worldscale (W) สู่ระดับ 38.82W ในวันศุกร์ (25 ก.พ.) โดยเรือ VLCCs สามารถบรรทุกน้ำมันได้ 2 ล้านบาร์เรล
ดัชนีกำหนดราคาของสมาคม Worldscale Association ดังกล่าวได้ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการคำนวณค่าระวางเรือ
บรรดาเจ้าของเรือวิตกเกี่ยวกับ ราคาเชื้อเพลิงเติมเรือ (bunker fuel) ที่เพิ่มขึ้น และได้ขอปรับขึ้น อัตราค่าระวางเรือ ขณะที่เจ้าของเรือบรรทุกน้ำมันขนาดกลางอะฟราแมกซ์ (Aframax) ซึ่งมีเรือแล่นในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนวิตกเกี่ยวกับค่าเบี้ยประกันความเสี่ยงจากสงคราม
"กิจกรรมเดินเรือในตะวันออกเงียบเหงาในขณะนี้ แต่เราจะได้เห็นตลาดค่าระวางเรือปรับตัวขึ้นต่อไปอีก"โบรกเกอร์เรืออีกรายในสิงคโปร์กล่าวสรุป
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 27 กุมภาพ้นธ์ 2565